นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นตาม Sentiment บวกจากตลาดต่างประเทศที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในแดนบวก ภายหลังจากที่ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยุโรปออกมาดี และตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯก็ออกมาดีด้วย
สำหรับปัจจัยการเมืองวันนี้ก็รอดูความคืบหน้าการหารือของรัฐบาลกับทุกฝ่ายในเรื่องเลื่อนการเลือกตั้ง แต่ก็มองว่าไม่ได้ทำให้ปัญหาคลี่คลาย และต้องรอดูสถานการณ์การเมืองต่อไปว่าผู้ชุมนุมฯจะกดดันรัฐบาลมากขึ้นหรือไม่
พร้อมให้แนวรับ 1,280-1,285 จุด แนวต้าน 1,305 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(14 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,373.86 จุด เพิ่มขึ้น 115.92 จุด(+0.71%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,838.88 จุด เพิ่มขึ้น 19.68 จุด(+1.08%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,183.02 จุด เพิ่มขึ้น 69.72 จุด(+1.69%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 226.67 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 194.50 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 19.67 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.36 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.58 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.23 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.61 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.77 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(14 ม.ค.)ที่ 1,295.87 จุด เพิ่มขึ้น 12.31 จุด(+0.96%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,529.29 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ม.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(14 ม.ค.)ที่ 92.59 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.79 ดอลลาร์ฯ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(14 ม.ค.)ที่ 7.34 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.79/81 อ่อนค่า หลังดอลล์แข็งค่าจากตัวเลขศก.สหรัฐหนุน
- นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เปิดเผยว่า ภายใน 2-3 วันนี้ จะปิดสถานที่ราชการให้หมด นอกจากนี้จะควบคุมตัวนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้หมดพร้อมทั้งตัดน้ำตัดไฟบ้านรัฐมนตรี
- คลัง-ทีดีอาร์ไอ หวั่นชุมนุมยืดเยื้อฉุดความเชื่อมั่น ประเมินระยะสั้นไม่กระทบพาณิชย์สั่งชี้แจงสถานการณ์ประเทศคู่ค้ารับส่งออกเริ่มได้รับผลกระทบจากขนส่งล่าช้า ขณะตลาดเงิน-ทุนยังเปิดบริการตามปกติ แบงก์ปิดบริการแล้ว 132 สาขา ส่วนตลาดหุ้นชี้มีแผนรับมือเกิน 1 เดือน
- นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า หากสถานการณ์วุ่นวายทางการเมืองยืดเยื้อออกไปไม่มีกำหนดจะทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 โดยเฉพาะงบลงทุนที่กระทรวงการคลังตั้งเป้าหมายเบิกจ่าย 82% ของงบลงทุน 4.41 แสนล้านบาทหรือคิดเป็นเงิน 3.6 แสนล้านบาท จะเบิกจ่ายไม่ได้ตามเป้าหมาย แม้ว่าปัจจุบันส่วนราชการจะลงนามสัญญาว่าจ้างเอกชนลงทุนภายใต้งบประมาณ 2557 เป็นวงเงินถึง 2 แสนล้านบาทแล้ว
- "เชาว์ เก่งชน" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากการประเมินผลกระทบเบื้องต้น กรณีการปิดเส้นทางจราจรหลักในกรุงเทพฯ ของกลุ่ม กปปส. ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา โดยพิจารณาจากขนาดเศรษฐกิจ(จีดีพี) ของกรุงเทพฯ ที่ 1 หมื่นล้านบาทต่อวันยังมองว่าความเสียหายในเชิงเศรษฐกิจน่าจะยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 10% ของจีดีพีกรุงเทพฯหรือไม่เกิน 1,000 ล้านบาทต่อวัน เพราะการเดินทางเข้าพื้นที่ชั้นในยังสามารถทำได้ด้วยรถไฟฟ้าและยังไม่มีความรุนแรง
- ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดรั้วอาคาร พร้อมงัดแผนบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินแบบวันต่อวันรับมือการชุมนุม ล่าสุดสั่ง พนง.ทำงานที่บ้าน มั่นใจระบบการซื้อขายทำงานได้ตามปกติ แม้การชุมนุมจะยืดเยื้อนานกว่า 1 เดือน เชื่อไม่มีผู้อาศัยจังหวะสถานการณ์ที่ไม่ปกติปั่นราคาหุ้นด้าน "จรัมพร" เชื่อกลุ่มผู้ชุมนุมมาเพื่อแสดงจุดยืนโดยสงบ และจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ยืนยัน ตลท.พร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ขณะที่ร้านทองเยาวราชกลับมาเปิดให้บริการอย่างคึกคัก ด้านโบรกฯย้ำแค่เลื่อนเลือกตั้งไม่ใช่ทางออก หั่นจีดีพีปี 57 เหลือ 2.8%
- นายยุทธนา หยิมการุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า แม้ว่าจะมีม็อบกปปส.มาชุมนุมปิดกรมศุลกากร แต่การบริการผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้าสินค้ายังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ เพราะจากการเจรจากับผู้ชุมนุมนั้นเขาต้องการให้ข้าราชการไม่เข้าไปทำงานเท่านั้น และผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะไม่ตัดน้ำตัดไฟ เพราะอาจจะทำให้มีปัญหาระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการควบคุมการส่งออกนำเข้าสินค้า รวมถึงการเสียภาษีทั้งหมดของกรมศุลกากรได้รับผลกระทบในวงกว้างและรุนแรงได้
*หุ้นเด่นวันนี้
- GFPT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ปรับเป้าขึ้นเป็น 16 จากเดิม 14 บาท กำไรสุทธิ 4Q13 มีแนวโน้มดีกว่าที่เคยคาดไว้ โดยอาจทำได้ถึง 444 ล้านบาท +845% Y-Y แต่ลดลง 27% Q-Q ตามฤดูกาล จึงปรับกำไรสุทธิปี 2013 ขึ้น 11% เป็น 1.48 พันล้านบาท เป็นกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และปรับกำไรสุทธิปีนี้ขึ้น 15% เป็น 1.68 พันล้านบาท +14% Y-Y จากการส่งออกไก่ไปญี่ปุ่นมากขึ้น
- PTTGC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 87 บาท ราคาหุ้นมี Momentum เชิงบวก จากการปรับตัวขึ้นของราคาเอทิลีน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ PTTGC และทำระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี ขณะที่ส่วนต่างราคาเอทิลีน เพิ่มขึ้นถึง +22.3% wow เป็น US$517/ตัน แนวโน้มผลประกอบการ 4Q56 คาดว่าจะโดดเด่นสุดในกลุ่มโรงกลั่น นอกจากนี้ ราคาหุ้นมี Valuation ที่ไม่สูงมากนัก โดยซื้อขายระดับ PER 2557 ที่ 9.1x ต่ำกว่า TOP ที่ 9.5x และ IRPC ที่ 21.8x และ Spread ปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์จะปรับตัวขึ้นในปี 2557 จากความต้องการของจีนที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในปี 2557
- HMPRO(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 12.50 บาท ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี 2557 ปรับตัวลง 7.5% เทียบกับค่าเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ปรับตัวลงมาเพียง 2.5% ส่งผลให้ล่าสุดราคาหุ้น HMPRO กลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง จากระดับ Potential Upside Gain เมื่อเทียบกับมูลค่าเหมาะสมปี 2557 ที่สูงถึง 48% และระดับการจ่ายเงินปันผลปี 2557 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3.3% ขณะที่คาดว่าบริษัทจะเป็นเพียงบริษัทเดียวในกลุ่มค้าปลีกที่ศึกษาอยู่ที่จะรายงานกำไรสุทธิใน 4Q56 ออกมาเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY จึงประเมินว่ากำไรสุทธิในปี 2557 จะอยู่ที่ราว 3.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% YoY
- RS (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 10.30 บาท แม้ภาวะอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาเดือน ธ.ค. 56 จะอ่อนตัวลงกว่า 7% YoY และ 9% MoM แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่า RS ซึ่งมีความโดดเด่นจากธุรกิจทีวีดาวเทียมที่มีช่องทีวีที่ได้รับความนิยมสูง และการใช้กลยุทธ์ทางด้านราคาช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวจะทำให้ผลประกอบการงวด 4Q56 ยังแข็งแกร่งและเติบโตดีกว่าอุตสาหกรรมฯ ขณะที่ก่อนหน้านี้ RS ยังมีประเด็นบวกจากการแถลงความเห็นของตุลาการให้เพิกถอนประกาศ Must Have เป็นสัญญาณที่ดีต่อการบริหารลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกในปีนี้