สำหรับกองทุนเปิดธนชาต Global Equity Fund ตั้งใจให้กองทุนดังกล่าวเป็นตัวกระจายความเสี่ยง เป็นกองทุนหลักที่ลงทุนในต่างประเทศ เป็นกองทุนประเภทฟันด์ออฟฟันด์ โดย บลจ.จะเลือกผู้จัดการกองทุน เลือกตลาดที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในแถบทวีปนั้นๆ และปัจจุบันกองทุนดังกล่าวยังสามารถให้โอกาสผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน และกองทุนเปิดธนชาต Global Equity เพื่อการเลี้ยงชีพ (T-GlobalEQRMF) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่จะเข้าไปลงทุนในกองทุนประเภท RMF
กองทุนดังกล่าว ใช้กลยุทธ์การมองไปข้างหน้าถึง 2 ปี ในการทำการตลาด โดยให้ผู้จัดการกองทุนแต่ละภูมิภาควิเคราะห์การลงทุนในเวลานั้น และ บลจ.จะทำการเลือกตลาดที่น่าสนใจและให้ผลกระทบน้อยที่สุด แล้วทำการจัดสรรการลงทุนอีกทีหนึ่งว่า จะเข้าไปลงทุนในภูมิภาคไหนในสัดส่วนเท่าไหร่ ซึ่งปัจจุบันกองทุนดังกล่าวได้แบ่งการลงทุนในสหรัฐอเมริกา 50% ยุโรป 30% และที่เหลือเป็นเอเชียแปซิฟิก
ทั้งนี้ มองแนวโน้มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปี 2557 ยังมีความเสี่ยงอยู่ในช่วงขาลงท่ามกลางหลายประเด็นทางเศรษฐกิจที่ต้องจับตาใกล้ชิด โดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมืองของไทยที่มีความร้อนแรงอยู่ทุกขณะเวลานี้ จนทำให้ตลาดหุ้นไทยเกิดความผันผวนเป็นอย่างมากทั้งนี้การกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะการลงทุนในสหรัฐอเมริกา และยุโรปเองที่ขณะนี้มีการปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของการลงทุนที่สามารถให้โอกาสผลตอบแทนที่ดี และยังเป็นการกระจายความเสี่ยง แทนที่นักลงทุนจะลงทุนในประเทศไทยเพียงอย่างเดียว
"ที่ผ่านมาของนักลงทุนไทยส่วนใหญ่จะชอบลงทุนในประเทศของตัวเองเป็นหลักมากกว่าที่จะออกไปลงทุนนอกประเทศ ซึ่งช่วงนี้อาจจะต้องปรับเปลี่ยนแนวความคิดหรือมุมมองใหม่ เพราะสินทรัพย์ของไทยถือว่ามีขนาดเล็กมากเพียงไม่เกิน 2% ของ GDP ทั่วโลก ตลาดต่างประเทศจึงเป็นตลาดที่ใหญ่และมีโอกาสอยู่มาก"นายบุญชัย กล่าว