ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้รายได้อยู่แล้วที่ราว 1,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ และได้เข้าร่วมประมูลงานใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่องอีก ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทเข้าร่วมประมูลงานฐานรากมูลค่าราว 1,200 ล้านบาท และมีโอกาสสูงมากที่จะชนะได้งานดังกล่าวราว 300-400 ล้านบาทเข้ามาสนับสนุนงานในมือให้เพิ่มขึ้น และขั้นตอนอยู่ระหว่างใกล้จบดีลแล้ว จึงมองว่าหากไม่มีปัจจัยภายนอกที่รุนแรงมากระทบบริษัทจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้แน่นอน
ล่าสุด บริษัทประกาศได้รับการยืนยันการจ้างงานก่อสร้างโครงการต่าง ๆ เพิ่มเติมอีก 8 โครงการ มูลค่าเกือบ 120 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานเสาเข็มเจาะเฉพาะค่าแรงทั้งหมด ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่างานที่รวมวัสดุ และทิศทางงานเฉพาะค่าแรงก็มีตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/56 ส่งผลให้ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 56 เป็นอีกช่วงหนึ่งที่ดีของ PYLON แม้จะมีสถานการณ์ทางการเมืองเข้ามา แต่ยังไม่กระทบผลประกอบการบริษัท จึงเชื่อว่าผลงานในปี 56 จะเป็นไปตามเป้าหมายรายได้ที่ปรับเพิ่มจาก 1,200 ล้านบาท เป็น 1,300 ล้านบาท
ภาพรวมอุตสาหกรรมงานก่อสร้างและงานฐานรากเสาเข็มเจาะในปีนี้ยังดีต่อเนื่อง จากการลงทุนของภาคเอกชนและโครงการรัฐบาลที่ยังดำเนินการอยู่ แม้ปัจจุบันปัญหาทางการเมืองในประเทศยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก และไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนต่างๆ ให้คึกคักเหมือนปีที่ผ่านมา แต่มองว่าปัจจัยดังกล่าวจะกระทบภาพรวมอุตสาหกรรมเพียงระยะสั้น โดย PYLONก็ยังไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากฐานลูกค้าบริษัทส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ต้องวางแผนและประเมินล่วงหน้าในการออกโครงการต่างๆ ส่งผลให้ในตลาดมีงานใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซี่ง PYLON เป็นบริษัทที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเสมอมา จึงมีโอกาสได้รับงานใหม่เพิ่มขึ้น
"สถานการณ์ทางการเมืองตอนนี้อ่านยาก และไม่ส่งเสริมให้มีการลงทุนต่างๆ เหมือนปีที่แล้ว ซึ่งเป็นยุคทองของอุตสาหกรรมก่อสร้างก็ว่าได้ แต่คาดว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจะตกอยู่ที่ผู้ประกอบการขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่ และเป็นเพียงระยะสั้นๆ ในระยะยาวยังคงต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป ในส่วนของ PYLON ยังไม่ค่อยได้รับผลกระทบ มีเพียงปัญหาเรื่องการขนส่งวัสดุเพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการ ซึ่งอยู่ในบริเวณที่มีการชุมนุม จึงต้องหยุดการทำงานไป 2 วัน ซึ่งตอนนี้สามารถทำงานได้ปกติแล้ว"นายบดินทร์ กล่าว