(แก้ไข) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้มีโอกาสปรับตัวลงกังวลการเมือง-บาทอ่อน

ส่วนตลาดภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและแดนลบในกรอบ 0.30-3.50%

พร้อมให้แนวรับที่ 1,280-1,285 จุด และ แนวต้าน 1,300-1,305 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(17 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,458.56 จุด เพิ่มขึ้น 41.55 จุด(+0.25%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,838.70 จุด ลดลง 7.19 จุด(-0.39%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,197.58 จุด ลดลง 21.11 จุด(-0.50%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 10.32 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.06 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 85.22 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 0.41 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.51 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 10.07 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.76 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ลดลง 4.20 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(17 ม.ค.)ที่ 1,295.41 จุด ลดลง 6.07 จุด (-0.47%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 610.64 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ม.ค.57
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(17 ม.ค.)ที่ 94.37 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.41 ดอลลาร์ฯหรือ 0.4%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(17 ม.ค.)ที่ 6.46 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 32.89/91 กังวลปัญหาการเมืองหลังมีเหตุรุนแรง
• กรมบัญชีกลางเตรียมรื้อเป้าการเบิกจ่ายปีงบประมาณ 2557 หลังชุมนุมการเมืองยืดเยื้อกระทบภาพรวมเบิกจ่ายทั้งปี ระบุ งบลงทุนหน่วยงานราชการประกวดราคาเพื่อจัดซื้อจัดจ้างไม่ได้ตามปกติ เผยกรมฯไม่สามารถออกมาตรการเร่งรัดเบิกจ่ายได้ ขณะที่แผนจัดทำงบปี 58 ส่อเลื่อนยาว กระทบจำนำข้าวใช้งบปี 58 ไม่ได้
• นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์ขณะนี้มีความเป็นห่วงเรื่องการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 27 เนื่องจากธุรกิจได้รับผลกระทบทางการเมืองประชาชน และผู้ประกอบการไม่มั่นใจ ทำให้การบริโภคและลงทุนหดตัวลง จนส่งผลให้การเก็บภาษีของรัฐบาลได้ต่ำกว่าเป้าไปด้วย
• ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)เปิดเผยว่า นโยบายการปรับราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ภาคขนส่งที่ต้องเลื่อนออกไปจากเดิมที่คาดว่าจะทยอยปรับขึ้นในเดือน มี.ค.อาจทำให้เกิดการลักลอบใช้ก๊าซฯ ผิดประเภท เพราะราคาแอลพีจีครัวเรือนจะปรับสูงขึ้นไปเรื่อยๆมากกว่าแอลพีจีภาคขนส่งเป็นช่องว่างในการหากำไร
• ธปท.เผยปริมาณและมูลค่าเช็งเด้งเพิ่มขึ้นไม่มากในทุกพื้นที่ที่มีการเรียกเก็บเงินตามเช็ค เหตุผู้ใช้เช็คมีความระมัดระวังมากขึ้นในยุคเศรษฐกิจหดตัว ขณะเดียวกัน เป็นที่น่าสังเกตปริมาณเช็คเรียกเก็บภายในจังหวัดเดียวกันมีปริมาณลดลงมากถึง 17%เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน พร้อมกันนี้ ธปท.ได้แจ้งให้ทำงานผ่านศูนย์ปฏิบัติงานสำรองต่อไปอีกจนถึงวันที่ 22 ม.ค.นี้และเพิ่มจำนวนพนักงานหมุนเวียนเข้ามาทำงานในสายจำเป็น

*หุ้นเด่นวันนี้

• BBL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 228 บาท กำไรตามคาด โดยกำไรสุทธิ 4Q13 -14% Q-Q, +4% Y-Y สินเชื่อใน 4Q13 เร่งตัวตามฤดูกาล +4% Q-Q, +9% YTD คุณภาพสินเชื่อยังคงแข็งแกร่งสุดในกลุ่ม
• AP (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 6.70 บาท คาดราคาหุ้นกลุ่มบ้านในช่วงต้นสัปดาห์จะได้รับปัจจัยหนุนในเชิง Sentiment จากการที่ล่าสุด Bloomberg ประเมิน กนง.จะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% วันพุธนี้ ขณะที่ราคาหุ้นน่าสนใจในเชิงมูลค่าจากการที่ล่าสุดซื้อขายที่ PBV ราว 0.9 เท่าเท่านั้น ผลงานเริ่มฟื้นต่อเนื่อง คาดกำไรสุทธิ 4Q56 ดีสุดของปี และคาดกำไรสุทธิปี 57 ขยายตัวต่อเนื่องราว 7% มาที่ 2.1 พันล้านบาท ประเมินปันผลปี 56 ที่ 0.24 บาท คิดเป็น Dividend Yield ถึง 5%
• STEC(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 29 บาท คาดกำไรสุทธิใน 4Q56 ไว้ที่ 354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% YoY มาจากการรับรู้รายได้ดีต่อเนื่องทั้งจากงานรถไฟฟ้าและงานเอกชน เช่น เซ็นทรัล และเจริญโภคภัณฑ์ รวมถึงงานใหม่ คือ สร้างทางด่วน ขณะที่ปี 57 เบื้องต้นคาดจะได้งานใหม่ 3 หมื่นล้านบาท และอาจเพิ่มขึ้นอีกหากโครงการสร้างโรงไฟฟ้าเริ่มประมูลใน 2Q57 รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มจะเปิดซองใน เม.ย.57 ด้วย ปัจจุบันงานในมือ 5.1 หมื่นล้านบาทเป็นฐานรายได้ปี 57-58
• KCE(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 26.30 บาท ปัจจัยการเมืองในประเทศจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการลงทุนช่วงที่เหลือเดือน ม.ค.และส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่หุ้นกลุ่มส่งออกที่ได้รับผลกระทบเชิงลบจำกัด ยังได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากบาทอ่อน คาดกำไรสุทธิ 4Q56 โต +136% yoy อัตรากำไรขั้นต้นเร่งตัวขึ้น และบาทอ่อน พร้อมคาดกำไรปกติปี 57 ขยายตัวต่อเนื่อง +12.1% yoy รวมทั้งให้เงินปันผลในเกณฑ์ดี 2H56 หุ้นละ 0.52 บาท คิดเป็น 2.5%