ทั้งนี้ บลจ.ยังคงให้ความสำคัญกับการเฟ้นหาตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลก เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจที่สุดเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุใกล้เคียงกัน โดยกองทุนตราสารหนี้อายุโครงการประมาณ 3 เดือนที่จะเสนอขายในสัปดาห์นี้ ยังคงสามารถให้ผลตอบแทนเทียบเท่ากับกลุ่มกองทุนที่เสนอขายไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม บลจ. กสิกรไทยมองว่า แนวโน้มอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ทั้งพันธบัตรรัฐบาลรวมถึงตราสารหนี้เอกชนในระยะนี้ยังจะปรับตัวลดลงไปได้อีก อันเนื่องมาจากปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศที่ยังคงมีความไม่แน่นอน รวมถึงความชัดเจนเรื่องการชะลอมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ดังนั้น จึงแนะนำให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดระยะเวลาชัดเจน เพื่อล็อกอัตราผลตอบแทนเอาไว้ก่อนที่อัตราผลตอบแทนในตลาดจะปรับตัวลดลง และเพื่อรอดูความชัดเจนด้านเศรษฐกิจต่อไป
สำหรับกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ดีดับบลิว (KFI3MDW) ที่จะเสนอขายในช่วงเวลาดังกล่าว ในเบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝากของ Akbank T.A.S. และเงินฝากของ Garanti Bank, ประเทศตุรกี ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch Ratings ที่ BBB และ BBB- ตามลำดับ นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ประเทศไทยของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ประเทศไทย ที่ระดับ A+ และ AA- ตามลำดับ อีกทั้งยังลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, ประเทศไทย ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก TRIS ที่ระดับ AAA โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนกับกองทุน KFI3MDW ได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท