สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 75,857 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 36,870 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 48.6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 19,383 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 25.6% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 2,461 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB155A, LB176A และ LB196A (รุ่นอายุ 1.3 ปี, 3.4 ปี และ 5.4 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 13,968 ล้านบาท หรือคิดเป็น 72% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW194A) มูลค่า 840.1 ล้านบาท
2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT14DA) มูลค่า 417.2 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บ้านปู (BANPU195A) มูลค่า 309.0 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,566.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 63.7% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,761 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,970 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,028 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.21% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.35% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.03%
>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve ปรับลดลงในตราสารช่วงอายุ 6 เดือน - 10 ปี ประมาณ 1-3 bps. จากแรงซื้อของนักลงทุนบางส่วนทั้งสถาบันการเงินในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติ ที่คาดว่าการประชุม กนง. วันพุธนี้ อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับปัจจัยต่างประเทศ ตลาดติดตามการรายงาน GDP ไตรมาส 4/56 ของจีน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 7.6% สำหรับด้านนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 3,028 ล้านบาท