นายพงษ์ดิษฐ พจนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กประเภทโคเจนเนอเรชั่นที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นระยะเวลา 25 ปี โครงการนี้จะผลิตไฟฟ้าเข้าระบบสายส่งของกฟผ. 180 เมกะวัตต์ ส่วนไฟฟ้าที่เหลือและไอน้ำจะขายให้กับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ปัจจุบันการพัฒนาโรงไฟฟ้าชุดที่ 1 ได้ดำเนินการวางระบบสาธารณูปโภค ระบบเชื้อเพลิง และงานด้านวิศวกรรมและการติดตั้งเครื่องจักร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ราชบุรีเวอล์ดโคเจนเนอเรชั่น เป็นโครงการที่ตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมการใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะนอกจากพลังงานไฟฟ้าที่ช่วยเสริมระบบไฟฟ้าของประเทศให้มั่นคงยิ่งขึ้นแล้ว กำลังผลิตที่เหลือสามารถจำหน่ายให้กับโรงงานอุตสาหกรรมโดยตรง เช่นเดียวกับไอน้ำส่วนเกิน ขณะนี้โรงไฟฟ้าชุดที่ 1 อยู่ในขั้นตอนทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ระบบเครื่องจักร และจะทดสอบประสิทธิภาพการเดินเครื่องในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เพื่อเริ่มเดินเครื่องจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในเดือนพฤศจิกายน 2557 ส่วนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชุดที่ 2 มีความก้าวหน้าร้อยละ 70 และมีกำหนดการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ ประมาณเดือนมีนาคม 2558" นายพงษ์ดิษฐ กล่าว
เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จำหน่ายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดในบริษัท ราชบุรีเวอลด์ โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ให้บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (REGCO) ในราคาหุ้นละ 10 บาท ตามราคาทุนที่ชำระแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 500 ล้านบาท การดำเนินการดังกล่าวเป็นการบริหารจัดการโครงสร้างการลงทุนใหม่ของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินทรัพย์และมูลค่าสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทฯ ประกอบด้วยกลุ่มลงทุน 4 กลุ่ม คือ กลุ่มโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลักทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กในประเทศ กลุ่มโรงไฟฟ้าประเภทพลังงานทดแทนในประเทศ กลุ่มโครงการในต่างประเทศ และกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำลังผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ รวม 6,453 เมกะวัตต์ ซึ่งแบ่งตามกลุ่มโครงสร้างการลงทุนใหม่ คือ เป็นโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลักในประเทศขนาดใหญ่และขนาดเล็ก กำลังผลิตติดตั้งรวม 4,484เมกะวัตต์ โครงการพลังงานทดแทนในประเทศ กำลังผลิตรวม 102.5 เมกะวัตต์ และโครงการในต่างประเทศ กำลังผลิตรวม 1,866.5 เมกะวัตต์