กสทช.เดินหน้าหาตัวมือดีรบกวนช่องสัญญาณไทยคม แม้ยอมรับทำได้ยาก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 21, 2014 12:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่สำนักงานกสทช. เชิญตัวแทน บมจ.ไทยคม(THCOM)และตัวแทนสถานีโทรทัศน์บลูสกาย มาหารือกรณีมีผู้ดำเนินการส่งคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา และสำนักงานฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมมอนิเตอร์การรบกวนดังกล่าว ณ สถานีไทยคม ลาดหลุมแก้ว พบว่า การส่งคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมเป็นการรบกวนทั้งช่องสัญญาณ (ทรานสปอนเดอร์) ส่งผลกระทบต่อช่องรายการทุกช่องที่เช่าช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม 5 และไทยคม 6 ในระบบ C-Band ไม่ได้เป็นการรบกวนเฉพาะช่องบลูสกาย ปัจจุบันพบว่าการรบกวนยังคงมีอยู่ เป็นการส่งคลื่นรบกวนความถี่ C-Band เช่นเดิม ส่วนช่องใหม่ที่สำรองให้ทางสถานีบลูสกายยังไม่ถูกรบกวน

“การดำเนินการตรวจสอบค้นหาตัวผู้ดำเนินการส่งคลื่นรบกวนกระทำได้ยาก เนื่องจากผู้ดำเนินการทำการส่งสัญญาณรบกวนเป็นระยะเวลาสั้นๆ และมีการย้ายสถานที่ในการส่งสัญญาณตลอดเวลา แต่สำนักงานฯ ยังไม่ละความพยายาม ยังคงให้สำนักงาน กสทช. เขตทั้ง 14 เขต ทั่วประเทศ ส่งรถตรวจสอบและหาทิศทางสัญญาณรบกวน 20 คันออกตรวจคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมอยู่ และส่งเจ้าหน้าที่ประจำการเพื่อตรวจสอบการรบกวน ณ สถานีไทยคม ลาดหลุมแก้ว เป็นประจำทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย พร้อมทั้งรับฟังเบาะแสจากทุกช่องทาง เพื่อหาตัวผู้ดำเนินการ"เลขาธิการ กสทช. กล่าว

นอกจากนั้น สำนักงานฯ ได้สั่งการให้ 16 หน่วยงาน ที่มีสถานีภาคพื้นดินเคลื่อนที่ (Mobile Earth Station) หรือเรียกกันทั่วไปว่า รถโอบี อยู่ในความครอบครอง ใช้งานสถานีภาคพื้นดินเคลื่อนที่ ตามวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุญาตจาก กสทช. พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติของหน่วยงานให้รอบคอบในการปฏิบัติ หากตรวจพบว่ามีการใช้งานนอกเหนือวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุญาต ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ซึ่งสำนักงาน กสทช. จะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุดกับผู้ที่ดำเนินการส่งคลื่นรบกวนดังกล่าว พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ทั้ง 16 หน่วยงานเร่งรายงานการใช้งานสถานีภาคพื้นดินเคลื่อนที่มายังสำนักงาน กสทช. โดยด่วน

และได้มีหนังสือถึงกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (กระทรวงไอซีที) ซึ่งเป็นเจ้าของสัญญาสัมปทานขอให้ดำเนินการตรวจสอบให้เป็นไปตามสัญญาสัมปทานด้วย ต่อกรณีที่เกิดขึ้นนี้ สำนักงาน กสทช. ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากการกระดำเนินการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้รับข่าวสาร ในสถานการณ์ขณะนี้ การกระทบดังกล่าวเป็นการสร้างความปั่นป่วน ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และความมั่นคงของประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ