นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า ปี 57 คาดจะมีหุ้นกู้ออกใหม่ทั้งหมด 4-4.2 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นหุ้นกู้เอกชน ซึ่งใกล้เคียงกับปี 56 ที่ 4.18 แสนล้านบาท โดยปัจจัยที่จะมีผลต่อการออกหุ้นกู้ใหม่ปีนี้ คือ ตัวเลขเศรษฐกิจ ส่วนวิกฤติการเมืองคงปล่อยให้ยือเยื้อไปมากไม่ได้ เชื่อว่าน่าจะจบภายในเดือน ก.พ.นี้ ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยเบื้องต้นจากการสำรวจความเห็นผู้จัดการตราสารหนี้ส่วนใหญ่เชื่อว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) พรุ่งนี้น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิม
ส่วนความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะถูกปรับลดอันดับเครดิตมีในประเด็นการโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งหลายภาคส่วนมองว่าเป็นเรื่องที่จะต้องแยกภาระดังกล่าวออกไป เพราะเป็นภาระขาดทุนที่จะเกิดขึ้นกับงบประมาณ ขณะที่เสถียรภาพทางการเมืองก็กระทบเครดิตประเทศด้วย โดยปัจจุบัน อันดับความน่าเชื่อถือในตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของไทยอยู่ที่ BBB+ ส่วนตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินบาทอยู่ที่ A-
นายนิวัฒน์ กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดรองตราสารหนี้ไทยปี 57 สภาพคล่องน่าจะใกล้เคียงกับปี 56 เพราะยอดหุ้นกู้ออกใหม่ใกล้เคียงกันทั้งตราสารหนี้รัฐบาลและเอกชน ขณะที่แนวโน้มอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นมีโอกาสที่จะปรับลงตามทิศทางดอกเบี้ยในประเทศที่มองว่าในอนาคตที่อาจมีความจำเป็นต้องใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวมีโอกาสปรับขึ้นตามทิศทางเงินทุนต่างชาติที่มีโอกาสไหลออกตามขนาดของมาตรการ QE ที่คาดว่าจะปรับลดลงต่อเนื่องในปีนี้ และไทยเองก็ไม่ได้มีมาตรการจูงใจให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะลดลงแค่ไหนขึ้นอยู่กับเงินเฟ้อซึ่งไม่ควรจะต่ำกว่าเงินเฟ้อ
ส่วนเม็ดเงินต่างชาติคาดปีนี้จะไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ทั้งตราสารหนี้ระยะสั้นและระยะยาว ถ้าการลดขนาดมาตรการ QE หมดลง ซึ่งคาดว่าจะถอนเกือบหมดในสิ้นปีนี้ ราว 7 หมื่นล้านเหรียญฯ ถ้าถอนทุกเดือนก็น่าจะหมด จะทำให้นักลงทุนต่างชาติเหลือถือครองตราสารหนี้ไทยราว 5-6 แสนล้านบาทในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 7 แสนล้านบาท ซึ่งถ้าเหลือ 5-6 แสนล้านบาท จะทำให้ต่างชาติถือครองตราสารหนี้ไทยเหลือ 15% ลดลงจากสิ้นปี 56 ที่ถือ 18% (7.7 แสนลบ.)
โดยช่วงวันที่ 1-17 ม.ค.57 ไหลออกแล้ว 8,600 ล้านบาท
"ปีนี้ถ้า QE หมด เงินต่างชาติจะไหลออกจากตลาดตราสารหนี้มากกว่าแสนล้านบาท ทั้งตราสารหนี้ระยะสั้นและยาว ขณะที่เงินต่างประเทศที่เกิดขึ้นช่วง 10 กว่าวันนี้ เป็นการขายตราสารหนี้ระยะยาว บอกถึงเรียลอินเวสเตอร์ที่เป็นนักลงทุนต่างชาติเริ่มออกไปแล้ว" นายนิวัฒน์ กล่าว