แต่คิดว่าไม่น่าจะมี impact มากเท่าใดนัก เพราะมองว่ารัฐบาลคงประกาศในเชิงสัญลักษณ์มากกว่า แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าคือการที่ผู้ชุมนุมมีแผนจะเคลื่อนไปปิดวิทยุการบิน ยังต้องติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิดต่อไป
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบเล็กน้อย ไม่ได้มีปัจจัยพิเศษ พร้อมให้แนวรับ 1,280 จุด แนวต้าน 1,300 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(21 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,414.44 จุด ลดลง 44.12 จุด(-0.27%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,843.80 จุด เพิ่มขึ้น 5.10 จุด(+0.28%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,225.76 จุด เพิ่มขึ้น 28.18 จุด(+0.67%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 46.95 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.66 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 78.35 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 0.92 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 3.43 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.30 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.23 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(21 ม.ค.)ที่ 1,293.10 จุด เพิ่มขึ้น 3.11 จุด (+0.24%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 970.98 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ม.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(21 ม.ค.)ที่ 94.99 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.62 ดอลลาร์ฯหรือ 0.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(21 ม.ค.)ที่ 5.13 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.90/92 หลังประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน/รอผลประชุม กนง.
- รัฐบาลตัดสินใจประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลแทน พ.ร.บ.ความมั่นคง กรอบเวลา 60 วันมอบอำนาจ ผบ.ตร.คุมฝ่ายปฏิบัติ พร้อมผุดศูนย์รักษาความสงบ ตัวย่อ ศรส. ที่สำนักงานปลัดกลาโหม ทำหน้าที่เป็นหน่วยบัญชาการ ฮือฮาให้ "เฉลิม" นั่งแท่น ผอ.
- นักเศรษฐศาสตร์ 3 ชาติเอเชีย จีน เกาหลีใต้ญี่ปุ่น เห็นพ้องการเมืองวุ่นไร้ทางออก กดจีดีพีไทย 2-3 ปีหน้าขยายตัวลดลง เหตุประเทศขาดยุทธศาสตร์บริหารงานชัดเจน การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานล่าช้า ผสมเอฟดีไอชะลอตัวไหลไปที่อื่น
- หลังรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.นี้ นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยไตรมาสแรกติดลบอย่างน้อย 5-10% ส่วนทั้งปีจะลดลงหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น
- บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส(แอเรีย)ระบุจากปัจจัยทางการเมืองที่ส่งสัญญาณยืดเยื้อและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อาจมีผลให้การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในปี 2556 นี้ ลดลง 30-40% จากยอดเปิดตัวใหม่ในปีที่แล้วที่มีมากกว่า 1.31 แสนหน่วย คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3.85 แสนล้านบาท โดยถ้าปัญหาการเมืองไม่สามารถจบได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ จะส่งผลกระทบยาวไปจนถึงไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการอาจต้องทบทวนการเปิดตัวโครงการใหม่
- สมาคมตราสารหนี้ ประเมินหากสหรัฐถอนคิวอีหมดในปีนี้ ฉุดเงินต่างชาติไหลออกไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ขณะที่ทิศทางดอกเบี้ยระยะสั้นปีนี้มีแนวโน้มลงได้ตามดอกเบี้ยนโยบาย ส่วนดอกเบี้ยระยะยาวมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ-เงินทุนไหลออก ส่วนเอกชนออกหุ้นกู้ 4-4.2 แสนล้านบาทใกล้เคียงปี 2556
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2557 (ต.ค.-ธ.ค.2556)รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 4.96 แสนล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนประมาณ 5,733 ล้านบาท หรือ 1.1% เนื่องจากในปีก่อนหน้ามีการนำส่งรายได้จากการประมูลให้ใช้คลื่นความถี่ 3จี ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ จำนวน 2.08 หมื่นล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- TTA(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 21.55 บาท ทุ่มงบ 638 ล้านซื้อเรือเพิ่มดันกองเรือพุ่ง 19 ลำ โดยอายุเฉลี่ยต่ำกว่า 11 ปี เป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับปรุงกองเรือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและเพื่อให้มีเรือผสมผสานกันอย่างสมดุลของเรือประเภท Handymax และ Supramax มองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 57 จะเป็นปัจจัยสำคัญหนุนผลประกอบการ
- PS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 24.50 บาท การเปิดโครงการใหม่เป็นไปอย่างระมัดระวังตามแผนจะเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ 40-50 แห่ง มูลค่า 4-5 หมื่นล้านบาท ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง โดยได้ปรับกำไรปี 2013 ขึ้น 4% แต่ปรับกำไรปี 2014 ลง 7% เป็น 5,480 ล้านบาท (+4% Y-Y) และคาดจ่ายปันผล 0.65 บาท (yield 3.6%)
- DELTA(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 59 บาท คาดกำไรสุทธิ 4Q13 ลดลง 31% Q-Q ตามฤดูกาล แต่จากกำไรที่ดีตลอด 9M13 จึงคาดกำไรปกติทั้งปี 2013 +19% Y-Y และคาดเติบโตต่อเนื่องอีก 14% ในปี 2014 จากทั้งการเติบโตของรายได้ และการปรับ Product Mix และคาดจ่ายปันผล 2.75 บาท (Yield 5.4%)
- AOT (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 220 บาท ราคาหุ้นปรับลงมาตอบรับปัจจัยลบจากการชุมนุมทางการเมืองที่มีผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและจำนวนเที่ยวบินลดลง แต่เชื่อสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ขณะที่จำนวนผู้โดยสารที่ลดลงยังอยู่ในกรอบสมมติฐาน และเชื่อหลังการเมืองคลี่คลาย ผู้โดยสารจะกลับมาเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ยังคงสมมติฐานการเติบโตที่ 10% และกำไรปกติปี 57 อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 17% YoY
- BEC(เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"คาดกำไร 4Q56 โตโดดเด่น 10% YoY ท่ามกลางการชะลอตัวของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณา Nielsen รายงานยอดใช้งบโฆษณาช่อง 3 เติบโต 10% YoY ในขณะที่สื่อโทรทัศน์โดยรวมหดตัว 1% YoY นอกจากนี้ โดยยังประเมินว่า BEC จะขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจสื่อทีวีในอนาคตจากการเป็นผู้เล่นที่มีช่องทีวีดิจิทัลมากที่สุดถึง 3 ช่อง และมีทรัพยากร(พิธีกร ดารา อุปกรณ์) ที่มีความพร้อมในการผลิตรายการคุณภาพเพื่อแข่งขันในตลาดสื่อทีวี พร้อมให้แนวรับ และจุด Cut Loss ที่ 46.75 บาท และแนวต้าน 52.25 บาท