ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดปรับขึ้นมากในช่วงปีที่ผ่านมา แต่อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) กลับปรับลดลงในปี 56-57 มาอยู่ที่ระดับประมาณ 15 เท่าในปี 57 จากระดับ 16 เท่าในปี 56 เนื่องจากอัตราการเติบโตของกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าราคาหุ้นที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งสวนทางกับตลาดหุ้นอื่นๆ ที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นผลักดันให้ PE สูงขึ้น ดังนั้นจึงมองว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีความน่าสนใจ อีกทั้งทิศทางของการอ่อนค่าของเงินเยนที่เราประเมินไว้ที่ระดับ 110 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ส่งผลดีต่อปัจจัยพื้นฐานและโมเมนตัมต่อการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าดัชนี NIKKEI 225 มีโอกาสปรับตัว อยู่ที่ระดับ 18,000-19,000 จุด ในปี 57 หรือประมาณ 20% จากปัจจุบัน สำหรับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังตลาดหุ้นญี่ปุ่น แนะนำให้ทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวต่ำกว่า 15,600 จุด
สำหรับ บลจ.วรรณ มีคำแนะนำนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น ผ่านกองทุนที่มีการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully hedge) ด้วยกองทุนเปิด วรรณ เจแปน ฟันด์ (ONE-JAPAN) ซึ่งลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น (Tokyo Stock Exchange) มีผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 20 มกราคม 57 โดยผลตอบแทนนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 10.18% ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทนของดัชนี NKKEI 225 อยู่ที่ระดับ 9.41% ในช่วงเวลาเดียวกัน
กองทุนเปิดวรรณ เจแปนฟันด์ จะมุ่งเน้นการบริหารจัดการที่มีความยืดหยุ่น บริหารการลงทุนด้วยผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ รวมทั้งมีจุดแข็งจากการลงทุนในต่างประเทศ ด้วยการมีสถาบันการเงินชั้นนำที่ให้ข้อมูลการวิเคราะห์หลักทรัพย์ อาทิ บริษัทหลักทรัพย์ LGT และ Nomura ซึ่งช่วยให้ผู้จัดการกองทุนสามารถบริหารการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการคัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการสูง โดยเน้นบริษัทขนาดใหญ่จาก 100 ลำดับแรกในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น รวมถึงมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทและเยนญี่ปุ่นอย่างน้อย 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน