ทั้งนี้ บริษัทยังได้เตรียมให้บริการทางการเงินเพิ่มเติม โดยจำหน่ายประกันภัยสำหร้บบุคคลทั่วไป และลูกค้าสินเชื่อของบริษัท ภายใต้ชื่อ "โบรกเกอร์เงินติดล้อ" ด้วยสโลแกน ประกันซื้อง่ายคุ้มครองไว โดยมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ร่วมกับพันธมิตรหลักคือ บริษัท ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย จำกัด(มหาชน) สำหรับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันรถยนต์แบบสำเร็จรูป โดยประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลจะมีวงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 3 แสนบาท
ส่วนประกันภัยรถยนต์ รับจำหน่ายและรับต่อประกันภัยทุกประเภท
นอกจากนี้ ยังได้มีการเตรียมแผนการร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทประกันภัยต่างๆ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์รถยนต์ ประเภทเสนอราคา เพื่อให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับลูกค้า ทั้งนี้บริษัทมั่นใจในศักยภาพและความพร้อมในการให้บริการผลิตภัณฑ์ประกันภัย โดยมีพนักงานที่ได้มีการฝึกอบรมและผ่านการสอบใบอนุญาตตัวแทน ให้คำปรึกษาผลิตภัณฑ์ประกันภัย
"การเข้าสู่ธุรกิจประกันภัย นับว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทจะเจาะตลาดประกันภัยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเราเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของบริษัท โดยนำจุดแข็ง ด้านเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ความน่าเชื่อถือขององค์กร และการอำนวยความสะดวกสำหรับประชาชนทุกกลุ่มให้สามารถซื้อประกันภัยได้สะดวกและง่ายยิ่งขึ้น" นายปิยะศักดิ์ กล่าว
นายปิยะศักดิ์ คาดว่า ยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ในปีนี้จะยังต่ำกว่า 1% จากปีก่อนอยู่ในระดับ 0.7% เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการเมืองต่อเนื่องจากปีก่อน และผลกระทบจากนโยบายรถคันแรก ส่งผลให้บริษัทต้องมีการปล่อยสินเชื่อลดลงตามราคารถยนต์ขายดีที่ต่ำลง รวมถึงคาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะเติบโตชะลอลง ซึ่งจะทำให้มีผู้ออกรถป้ายแดงน้อยลง เป็นผลให้ธนาคารที่เป็นคู่แข่งของบริษัทลงมาจับตลาดในระดับล่างมากขึ้น ทำให้มีการแข่งขันที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ยอดสินเชื่อปีนี้ยังคงเน้นหลักดันการเติบโตของสินเชื่อรถบรรทุก โดยจะมีการเปิดสาขาเพิ่ม 30 สาขา เน้นในภาคเหนือและภาคใต้ รวมทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยตั้งเป้ายอดสินเชื่อรถบรรทุกจะเติบโต 50% หรือ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งจะใช้เงินลงทุนต่อสาขาจำนวน 1,000-2,500 ล้านบาท และงบการตลาดจำนวน 100 ล้านบาท
"มุมมองการปล่อยสินเชื่อจะมีการปรับลดลงตามราคารถที่ปรับลงเฉลี่ย 1-2% ต่อเดือน ดอกเบี้ยรถบรรทุกอยู่ที่ 8% ต่อปี รถมอเตอร์ไซต์ 1.25% ต่อเดือน และรถเก๋ง 6% ต่อเดือน"นายปิยะศักดิ์ กล่าว
ขณะที่สัดส่วนสินเชื่อทั้งหมด แบ่งเป็น สินเชื่อรถเก๋ง รถกระบะ 25% รถมอเตอร์ไซต์ 60% รถบรรทุก 10% และอื่นๆอีก 5% สำหรับการดำเนินธุรกิจจำหน่ายประกันภัยซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ บริษัทตั้งเป้ารายได้จากส่วนนี้ไว้เติบโต 5-10% โดยคาดหวังรายได้ในระยะยาวที่จะเติบโตเพิ่มขึ้นใน 4-5 ปีข้างหน้า
สำหรับการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในช่วง 60 วันนี้ บริษัทได้มีการชะลอการปล่อยสินเชื่อ จากที่ลูกค้าได้แสดงความจำนงว่ายังไม่ต้องการขอสินเชื่อรถบรรทุกในช่วงนี้ เพื่อรอดูสถานการณ์การเมืองก่อน