ล่าสุด ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงส่งไปยังก.ล.ต.เพื่อขอความเป็นธรรม และยืนยันว่าการดำเนินการของตนทำไปโดยมิได้มีเจตนาฝ่าฝืนข้อกำหนด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เกิดจากความสำคัญผิดในลักษณะของธุรกรรมซื้อขายหุ้นของตนเอง มิได้มีเจตนาแสวงหาผลประโยชน์ เอาเปรียบ หรือปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นรายอื่นโดยไม่เป็นธรรมแต่อย่างใดทั้งสิ้น
"ผมเข้าใจโดยสุจริตว่าสามารถซื้อหุ้น EIC ได้ภายหลังจากระยะเวลา 90 วัน และเป็นการกระทำที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย อย่างไรก็ดี ภายหลังที่ได้ปรึกษากับที่ปรึกษากฎหมายในวันที่ 18 ธ.ค.56 ทันทีภายหลังที่ได้หุ้นดังกล่าวมา ผมได้รับคำแนะนำว่าการได้หุ้นดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นเรื่องที่ผมได้สำคัญผิด...ซึ่งหากรู้ตั้งแต่ต้น ผมก็จะไม่ทำรายการซื้อหุ้นดังกล่าวอย่างแน่นอน"นายบี ระบุ
ดังนั้น เพื่อแก้ไขเหตุการณ์ดังกล่าว ในเวลาก่อนตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดการซื้อขายในวันที่ 18 ธ.ค.56 ซึ่งเป็นระยะเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากที่ได้หุ้นดังกล่าวมา ตนได้แจ้งต่อ บล.โกลเบล็กว่าตนอยู่ในช่วงการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EIC จึงได้ยกเลิกการทำธุรกรรมการซื้อขายดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเยียวยาแก้ไขเหตุการณ์ในขณะนั้น ก็ได้สั่งให้บล.โกลเบล็กเร่งโอนหุ้นจำนวนทั้งหมดที่ได้มาในขณะนั้น 1,017,500 หุ้นให้แก่บุคคลอื่นทันทีในราคา 3.50 บาท โดยตนเองไม่ได้ผลกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้น หรือประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น
"จากข้อเท็จจริงข้างต้น ผมขอยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะกระทำผิดเงื่อนไขการคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EIC ตามหนังสือดังกล่าวข้างต้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น เพราะหากมีเจตนา ผมคงไม่แจ้งยกเลิกคำสั่งดังกล่าวทันทีและคงไม่โอนหุ้นทั้งจำนวนออกไปโดยทันทีในวันเดียวกัน"นายบี กล่าว