นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้อยู่ เนื่องจากสถานการณ์การเมืองยังไม่คืบหน้าไปทางบวก อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติเมื่อวานนี้ก็ขายสุทธิออกมาค่อนข้างมากถึงกว่า 3 พันล้านบาท จากความกังวลสถานการณ์การเมืองที่อาจจะรุนแรงและทำให้เกิดปัญหาได้
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในแดนบวกเล็กน้อยหลังจากที่เมื่อวานนี้ได้ปรับตัวลงไป อันเนื่องมาจากความกังวลการลดขนาด QE แล้วจะส่งผลให้กระแสเงินไหลออก
"ตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงกดดันจากการเมือง ซึ่งก็คาดเดาสถานการณ์ได้ยาก และต้องรอดูวันนี้ที่ทางกกต.กับทางรัฐบาลจะหารือกันเรื่องเลื่อนการเลือกตั้ง แต่เมื่อวานนี้ทางพรรคเพื่อไทยยังคงยืนยันที่จะให้มีการเลือกตั้งต่อไปในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ดังนั้นความเสี่ยงของตลาดฯจึงยังมีอยู่ นักลงทุนจึงควรระมัดระวังการลงทุนและติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด"นายธนเดช กล่าว
พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,275-1,300 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(27 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,837.88 จุด ลดลง 41.23 จุด(-0.26%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,781.56 จุด ลดลง 8.73 จุด(-0.49%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,083.61 จุด ลดลง 44.56 จุด(-1.08%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 32.91 จุด, +0.22% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ไม่เปลี่ยนแปลง ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 5.22 จุด, +0.29%, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.73 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 36.41 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.10 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 1.45 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ลดลง 11.15 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(27 ม.ค.)ที่ 1,288.59 จุด ลดลง 26.04 จุด (-1.98%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,358.84 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ม.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(27 ม.ค.)ที่ 95.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.92 ดอลลาร์ฯ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(27 ม.ค.)ที่ 6.72 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 32.88/90 รอดูทิศทางนโยบาย QE ของเฟด
- ค่าเงินอาร์เจนตินาป่วนตลาดเงินเอเชียร่วงหนัก ผวาเกิดวิกฤติการเงินครั้งใหม่ ด้านแบงก์ชาติมั่นใจพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแตกต่างอาร์เจนตินา ทั้งระดับเงินสำรองฯแกร่งเทียบสัดส่วนต่อจีดีพีสูงติดอันดับ 3-4 ของโลก พร้อมเข้าดูแลหากพบเคลื่อนไหวผิดปกติ ด้านนักค้าเงิน-นักเศรษฐศาสตร์-ระบุเศรษฐกิจไทยแกร่ง แต่ห่วงการเมืองหากยืดเยื้อส่อตกเป็นเป้าได้
- นายกฯเตรียมหยิบยกความเห็น"กฤษฎีกา"ถกกกต.วันนี้ ยันกฎหมายให้อำนาจกกต.เลื่อนเลือกตั้งได้ 7 วัน หากเกิดจลาจล เหตุสุดวิสัย เล็งถามกปปส.ยุติชุมนุม-ปชป.ลงเลือกตั้งหรือไม่ ด้านกกต.ถกพรรคการเมือง"อภิสิทธิ์"ร่วมวง"สมชัย"แย้มเสนอเลื่อน 120-150 วัน "จารุพงศ์" อ้างมติ 41 พรรคไม่เลื่อนหย่อนบัตร
- กสทช.เตรียมออกใบอนุญาตผู้ชนะประมูลทีวีดิจิทัล 24 ช่อง สิ้นเดือน ก.พ.นี้ คาด มี.ค.-เม.ย.ทดลองออกอากาศ เปิดทาง ช่อง "ฟรีทีวี" เดิม ออกอากาศคู่ขนาน ไม่เสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม หวังดึงผู้ชมเปลี่ยนสู่แพลตฟอร์มทีวีดิจิทัล ด้านผู้ประกอบการ เปิดแผนลงทุนทีวีดิจิทัลช่องใหม่
- ปลัดกระทรวงการคลังเรียกประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลังเป็นการด่วนโดยไม่เปิดเผยสถานที่ประชุม เพื่อติดตามการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณชัดเจนว่าในปีงบประมาณ 2557 รัฐบาลจะจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.27 ล้านล้านบาท อย่างแน่นอน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจในภาพรวมชะลอตัว และยังต้องเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน 2-3 เดือน และยังไม่มีวี่แววว่าจะจบลงอย่างไร
*หุ้นเด่นวันนี้
- AI(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 24 บาท ปัจจัยหนุนราคาระยะสั้นคือบันทึกกำไรขายหุ้น AIE ไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาทใน 4Q56 ส่งผลให้ประเมินกำไรสุทธิใน 4Q56 ที่ราว 706 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY และส่งผลให้มีโอกาสจ่ายปันผลพิเศษด้วย เบื้องต้นประเมินที่ 1.60 บาท/หุ้น เป็น Dividend Yield ราว 12% (คาดจ่าย มี.ค.57)รวมปันผลปกติงวดปี 56 ที่คาดไว้ 0.70 บาท/หุ้น (คาดจ่ายใน เม.ย.57) จะคิดเป็น Total Dividend Yield สูงถึง 17%
- RS(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 9.60 บาท คาดผลประกอบการในงวด 4Q56 ที่กำลังจะประกาศจะยังแข็งแรงต่อเนื่องจากการส่งมอบงานอีเว้นท์จำนวนมากชดเชยการชะลอตัวลงของธุรกิจสื่อโฆษณาที่รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยเรายังเลือก RS เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม Media เนื่องจากคาดกำไรปี 2557 จะลดลงเพียงเล็กน้อย 3% YoY ท่ามกลางการหดตัวอย่างหนักของบริษัทอื่นในกลุ่มฯ ที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนทีวีดิจิทัล
- AOT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 210 บาท จำนวนผู้โดยสารเดือน ธ.ค. 2013 เพิ่มขึ้น 7.3% Y-Y ไม่ได้แย่อย่างที่คาด ส่วนใหญ่เป็นผลจากผู้โดยสารในประเทศที่เพิ่ม ส่วนจำนวนเที่ยวบินก็เพิ่ม 17% Y-Y ทำให้ในงวด 1Q14 (ต.ค.-ธ.ค.2013) จำนวนผู้โดยสาร +6% Q-Q, +4% Y-Y จำนวนเที่ยวบิน +9% Q-Q, +7% Y-Y กำไรงวดนี้จึงน่าจะเพิ่มทั้ง Q-Q และ Y-Y อย่างไรก็ตาม การเมืองเป็นความเสี่ยงที่สุดและเป็นความเสี่ยงที่ไม่อาจควบคุมหรือคาดเดาได้
- SPALI(ฟินันเซีย ไซรัส)ยังเป็น Top pick ในกลุ่มเพราะอัตราการเติบโตของกำไรที่สูงสุด PE ต่ำสุด 7 เท่า คาดกำไรปกติ 4Q13 +346% Q-Q, -3% Y-Y เป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี แต่รายได้โอน 4Q13 ต่ำกว่าคาด ทำให้ปรับกำไรปี 2013 ลง 7% เป็น 2.69 พันล้านบาท (-2% Y-Y) แต่คงกำไรปี 2014 ตามเดิมคาดเพิ่ม 45% Y-Y แม้วางแผนเปิดโครงการใหม่ 26 แห่งมากกว่าปีก่อน และตั้งเป้า Presales เพิ่ม 15% Y-Y แต่สมมติฐานของเราน้อยกว่านั้น จึงน่าจะระมัดระวัง พร้อมปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 22 บาทจาก 24 บาท
- THCOM(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 42 บาท ผลประกอบการปกติ 4Q13 โตดีขึ้น คาดเป็นไตรมาสที่มีกำไรจากการดำเนินงานดีสุดในปี 2013 ที่ราว 400 ล้านบาท ผลจากรับรู้รายได้ iPSTAR จีน และมีรายได้สุทธิจากดาวเทียมทดแทนไทยคม 6 แต่บมีหนี้ต่างประเทศของไทยคม 6 จึงขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้กำไรสุทธิสุดท้ายจะอยู่ที่ 200 ล้านบาท แนวโน้มปีนี้คาดกำไรสุทธิจะยังโตในอัตราสูง คาดจะทยอยโอนลูกค้าเข้าไทยคม 6 ตามที่จองไว้ 66% เสร็จสิ้นใน 2H14, รับรู้รายได้จีนเต็มปี, มีโอกาสที่จะทำรายได้จากช่องที่ว่าง 10% ของไทยคม 5