ทั้งนี้ ประเมินว่าจากมติการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา มีมติ 4 ต่อ 3 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25%ต่อปี สวนทางกับตลาดซึ่งคาดว่าจะมีการปรับลดลง 0.25% แม้ว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงตั้งแต่ปีที่ผ่านมา รวมถึงการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2557 ลดลงจากเดิม 4% เป็น 3% อันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศที่ยังคงยืดเยื้อและไม่มีทางออก รวมถึงการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 60 วันของรัฐบาล ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสภาวะการลงทุนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ รวมไปถึงส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยทำให้เกิดความผันผวนต่อเนื่องได้
สำหรับกองทุนเปิดฟินันซ่า ตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 6เดือน6 (FAM FIPR6M6) เป็นกองทุนที่โรลโอเวอร์มาจากการขายกองทุนก่อนหน้านี้ เป็นกองทุน Specific fund โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงินและ/หรือ เงินฝากของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD, CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC (Macau), Standard Chartered Bank (Hong Kong), ธนาคาร CIMB Niaga (Indonesia) หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร Union National Bank, UAE(P-1), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB), ตั๋วแลกเงิน บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง(BBB+), ตั๋วแลกเงิน บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (BBB+), บมจ.อีซี่บาย (BBB+), บจ.บีเอสแอล ลีสซิ่ง(BBB) หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB ขึ้นไป, ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น