แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีสถานการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้น ธนาคารอาจจะพิจารณาปรับลดเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยลง เพราะธนาคารได้รับผลกระทบในส่วนของยอดปล่อยสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันในเดือน ม.ค.57 ลดลงประมาณ50% จากปกติมียอดปล่อยสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันประมาณ 800-900 ล้านบาท แต่สินเชื่อรายย่อย เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยยังเติบโตได้ค่อนข้างดี และมีสัดส่วนในพอร์ตสินเชื่อรายย่อยถึง 60-70%
"จากสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น เราได้รับผลกระทบในส่วนของสินรายย่อยปรับตัวลดลงถึง 50% จากช่วงภาวะปิกติ แต่อย่างไรก็ตามสินเชื่อรายย่อยในการซื้อบ้านยังมีการเติบโตได้ตามปกติ และเราได้สร้างทีมในการเข้าไปบุกตามบริษัทต่างๆ ในการปล่อยสินเชื่อให้กับพนักงาน ธนาคารจึงยังมีความมั้นใจว่าสินเชื่อในปีนี้จะเติบโตได้ราว 2 หมื่นล้านบาท แต่ต้องติดตามสถานการณ์การเมือง อีกครั้ง หากเกิดความรุนแรง หรือมีความยืดเยื้อมาก อาจพิจารณาปรับลดเป้าลงได้"นายอดิศร กล่าว
ในวันนี้ ธนาคารได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการครบวงจรด้วยสิทธิประโยชน์ครบครัน เพื่อเพิ่มทางเลือกทางการเงินให้กับพนักงานบริษัท ภายใต้ชื่อบริการ"CIMB@Work" เจาะฐานลูกค้าบัญชีเงินเดือน ปัจจุบันมีบุคลากรในทีมอยู่ทั้งหมดประมาณ 20 คน และคาดว่าจะมีสินเชื่อจากการตั้งทีมในครั้งนี้ราว 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นสัดส่วนราว 5-10% ของพอร์ตสินเชื่อรายย่อยรวม โดยธนาคารตั้งเป้าที่จะเซ็น MOU กับบริษัท อย่างน้อย 400 บริษัทในปีนี้
ทั้งนี้ บริการดังกล่าว เปรียบได้กับสวัสดิการสำหรับพนักงานบริษัทซึ่งใช้บัญชีเงินเดือน(payroll)ผ่านธนาคาร ซึ่งเป็นโครงการที่ได้ประโยชน์ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง เพราะธนาคารจะเข้าไปนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับลูกค้ารายย่อย ซึ่งมีครบทุกความต้องการทั้งสินเชื่อ เงินฝาก ประกัน กองทุน รวมไปถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ อินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง ทั้งผลิตภัณฑ์ของธนาคารและบริษัทในเครือ โดยนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่พิเศษกว่าลูกค้าทั่วไป