สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB155A, LB176A และ LB236A (รุ่นอายุ 1.3 ปี, 3.4 ปี และ 9.4 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 10,141 ล้านบาท หรือคิดเป็น 79% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีประกันของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (AP191A) มูลค่า 266.4 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC188B) มูลค่า 185.2 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีประกันของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (AP171A) มูลค่า 70.1 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 521.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61.6% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 10,256 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 6,666 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,384 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.24% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.36% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve แกว่งตัวในกรอบแคบๆ เปลี่ยนแปลงไม่เกิน 1 bp. นักลงทุนจับตาประเด็นการเมือง วันที่ 2 ก.พ.56 ที่จะมีการเลือกตั้ง ว่าจะเกิดการเผชิญหน้าหรือเหตุรุนแรงหรือไม่ ด้านปัจจัยต่างประเทศ ล่าสุดตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมามีแนวโน้มในเชิงบวก โดยเฉพาะ GDP ไตรมาส 4/2556 ขยายตัว 3.2% จากยอดการส่งออกและการอุปโภคบริโภคที่ขยายตัว สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 4,384 ล้านบาท