(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงแนวเดียวกับตลาดภูมิภาค ปัจจัยใน-นอกปท.ไม่เอื้อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 4, 2014 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเช้านี้ได้ปรับตัวลงราว 1% ขึ้นไปในแต่ละตลาด เนื่องจากปัจจัยต่างประเทศเวลานี้เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ภายหลังจากที่ตัวเลข ISM ภาคการผลิตงวดเดือนม.ค.ออกมาต่ำสุดในรอบ 8 เดือน และยังมีกังวลความผันผวนของค่าเงินใน Emerging Market ด้วย รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ 10 ปี มาอยู่ที่ 2.59% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ทำให้นักลงทุนเห็นถึงความเสี่ยง

ด้านตลาดบ้านเราก็ยังมีความวุ่นวายจากการเมืองอยู่ โดยล่าสุดทางพรรคประชาธิปัตย์ก็จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญขอให้พิจารณาการเลือกตั้งเป็นโมฆะ อีกทั้งผู้ชุมนุมก็เริ่มมีการยกระดับขับไล่นายกรัฐมนตรีมากขึ้น จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะกัน

พร้อมให้แนวรับ 1,275-1,280 จุด แนวต้าน 1,295-1,300 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(3 ก.พ.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,372.80 จุด ลดลง 326.05 จุด(-2.08%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,741.89 จุด ลดลง 40.70 จุด(-2.28%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,996.96 จุด ลดลง 106.92 จุด(-2.61%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 265.80 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 473.72 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 25.00 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 36.07 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 8.14 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ ลดลง 50.98 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นเวียดนาม และตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน

  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(3 ก.พ.)ที่ 1,292.81 จุด เพิ่มขึ้น 18.53 จุด(+1.45%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,009.64 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ม.ค.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(3 ก.พ.)ที่ 96.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.06 ดอลลาร์หรือ 1.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(3 ก.พ.)ที่ 7.57 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเช้านี้เปิด 32.94/96 แนวโน้มแข็งค่า จับตา Fund Flow
  • ทีมกฎหมายปชป.งัดมาตรา 68 ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเลือกตั้งโมฆะ ยุบพรรคเพื่อไทย พ่วงร้องป.ป.ช.เอาผิดนายกฯ-ครม.คดีอาญา มาตรา 157 ด้านผู้ตรวจการแผ่นดินเล็งหารือเลือกตั้งโมฆะ วันนี้ กกต.เบรก"สมชัย"ขอสับเปลี่ยนหน้าที่พ้นดูแลเลือกตั้ง คาด 6 ก.พ.เคาะวันเลือกตั้งใหม่
  • กกร.ถกเครียดหลังการเมืองยืดเยื้อกระทบเศรษฐกิจ ชี้กดจีดีพีไทยโตต่ำกว่าภูมิภาค 1.5-2% คาดเม็ดเงินหาย 1.2-2.4 แสนล้านหากไม่มีรัฐบาลใหม่นาน 6-12 เดือนธุรกิจท่องเที่ยว-การลงทุนภาครัฐและเอกชนกระทบหนัก เผยส่งออกเริ่มได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อลดลง "พยุงศักดิ์" วอนกกต.เร่งพิจารณาตั้งบอร์ดบีโอไอ หวั่นต่างชาติย้ายโครงการลงทุนอุตสาหกรรมสำคัญไปอาเซียน "ชาติศิริ" แจ้งสถาบันการเงินดูแลเอสเอ็มอีใกล้ชิด ขณะที่ประธานสภาหอการค้าเร่งเดินสายกล่อมทูตต่างประเทศในไทยแจงสถานการณ์การเมืองสร้างความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ
  • น.ส.อุรวี เงารุ่งเรือง รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) งวดเดือน ม.ค.2557 เท่ากับ 106.46 สูงขึ้น 1.93% เทียบกับเดือน ม.ค. 2556 ถือว่าสูงสุดในรอบ 6 เดือนนับจากเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และสูงขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับธ.ค. 2556

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BANPU(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 30.60 บาท ตัดทิ้งซื้อหุ้นคืน 5% จำนวนหุ้น 135.60 ล้านหุ้นจะถูกนำไปลดทุนจดทะเบียน ดังนั้นอัตรากำไรต่อหุ้น และราคาเป้าหมาย จะขยับเพิ่ม 5% ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ มองว่า ราคาถ่านหินได้รับอานิสงค์ในระยะสั้น จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้น และในช่วง 1Q57 เป็นฤดูฝนที่อินโดนีเซีย ส่งผลให้ปริมาณการผลิตถ่านหินจากเหมืองแบบปิดลดลง
  • AP(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 6.70 บาท เริ่มกลับมามอง AP ในฐานะหุ้นในกลุ่ม Low Price & High Dividend Yield ที่มี Downside Risk จำกัดอีกครั้ง โดยมองว่าการปรับตัวลงมาราว 50% ตั้งแต่ 21 พ.ค.2556 (SET อยู่ที่ 1,650 จุด) ตอบสนองต่อทิศทางของผลการดำเนินงานในปี 2556 ที่ประเมินว่ากำไรสุทธิจะลดลง 15% YoY ไปแล้ว ขณะที่ล่าสุดราคาหุ้นของ AP ลงมาซื้อขายที่ระดับต่ำกว่าราคาในช่วงที่ SET อยู่ที่ 1,205 จุดเมื่อวันที่ 6 ส.ค.2555 ที่ 7.60 บาทราว 42% แล้ว โดยที่ล่าสุด AP ซื้อขายที่ระดับ PBV เพียง 0.8 เท่าเท่านั้น และมีระดับ Dividend Yield ที่ราว 5.5%
  • SVI(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 4.50 บาท ประเมินกำไรปกติใน 4Q56 ที่ 171 ล้านบาท เติบโต 11% QoQ และ 74% YoY โดดเด่นที่สุดในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ศึกษา ขณะที่ราคาหุ้นมีปัจจัยหนุนในระยะสั้นจากโอกาสที่กำไรสุทธิใน 4Q56 จะเพิ่มขึ้นจากกำไรปกติที่ดีอยู่แล้วขึ้นไปอีก บนความคืบหน้าเงินเกี่ยวกับประกันความเสียหายน้ำท่วมราว 1,058 ล้านบาท ที่คาดว่าจะรับรู้เป็นรายรับใน 4Q56 ประมาณ 635 ล้านบาท และส่วนที่เหลืออีก 40% จะรับรู้ใน 1Q57 ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทกลับมามีสถานะ Net Cash และคาดว่ามีโอกาสจะจ่ายเงินปันผลพิเศษในปีนี้
  • KCE(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"แนวโน้มกำไร 4Q13 อาจทำจุดสูงสุดใหม่ คาดกำไร +14% Q-Q, +46% Y-Y จากประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้กำไรปกติปี 2013 น่าจะก้าวกระโดดเป็น 1.05 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้เพียง 57 ล้านบาท โดยปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2014 ขึ้นมาใกล้เคียงปีก่อน ทำให้กำไรปีนี้เพิ่มจากประมาณการเดิม 9% เป็นเติบโต 14% Y-Y ทำให้ราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 28.40 บาทจากเดิม 26.30 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ