โบรกฯเห็นพ้องเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ(BGH)แม้จะคาดว่ากำไร 4Q56 ลด 5.7% yoy จากผลกระทบการเมืองและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ช่วง 21 วันแรกของเดือน ม.ค.57 รายได้ค่าบริการยังเติบโตสูงราว 7-8% yoy ตามปริมาณการใช้บริการและการปรับราคาขึ้น ทำให้เห็นแนวโน้มทั้งปี 57 รายได้น่าจะยังเติบโตราว 6-8% และกำไรสุทธิก็ยังเติบโตได้ดี แม้ปีนี้จะต้องลงทุนเปิด รพ.เพิ่มอีก 6 แห่ง ท่ามกลางความไม่สงบทางการเมือง
โบรกฯ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท)
บล.ฟิลลิป ซื้อ 152.00
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 155.00
บล.ทิสโก้ ซื้อ 143.00
บล.ธนชาต ซื้อ 149.00
บล.ซีไอเอ็มบี ซื้อ 154.00
บล.กรุงศรี ซื้อ 152.00
บล.บัวหลวง ซื้อ 144.00
น.ส.รัศดา ทวีแสงสกุลไทย นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)แนะนำ"ซื้อ"หุ้น BGH เนื่องจากในปี 57 จะเปิดโรงพยาบาลใหม่อีก 6 แห่ง โดยเปิด 4 แห่งในครึ่งปีแรก และอีก 2 แห่งครึ่งปีหลัง ขณะที่ผลประกอบการในปีที่ผ่านมานั้น ไตรมาส 4/56 เป็นช่วง low season กำไรน่าจะลดลง ประกอบกับ เดือน ธ.ค.56 มีการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อบางสาขา
ส่วนในเดือน ม.ค.57 ปริมาณการใช้บริการเติบโตดีราว 5-6% และราคาค่ารักษาพยาบาลปรับเพิ่มขึ้น 2-3% โดยรวมทั้งปี 56 คาดว่ารายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 7-8% โดยโรงพยาบาลในต่างจังหวัดที่เติบโตดีมาก คือ หาดใหญ่และอุดรธานี
แต่ผลกระทบทางการเมืองคาดว่าจะทำให้รายได้ในการใช้บริการน้อยกว่าที่คาดเดิม จึงปรับลดประมาณการรายได้เติบโต 8.66% y-y จากเดิมที่คาดโต 10.56% นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในส่วนการลงทุนขยายโรงพยาบาล จึงปรับลดกำไรปี 57 ลงเป็น 6,764 ล้านบาท จากเดิมคาดไว้ที่ 7,125 ล้านบาท ซึ่งก็ยังคงแสดงการเติบโต
"ปี 57 มองรายได้ยังเติบโตแต่อาจชะลอ เพราะมีการลงทุนเพิ่มขึ้น จากการขยายโรงพยาบาลที่ปีนี้จะมีเพิ่มอีก 6 แห่งTopline ก็จะเพิ่มขึ้นจาก growth และอีก 6 แห่งเพิ่มเข้ามาแต่เป็นการทยอยเพิ่ม"น.ส.รัศดา กล่าว
ด้าน นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ คาดว่ากำไรของ BGH จะเติบโตราว 13% จากปีก่อนที่คาดว่าจะลดลง 20% จากปี 55 เพราะได้รับผลกระทบจากเรื่องการเมือง แต่ในปี 56 น่าจะสะท้อนผลกระทบไปหมดแล้ว ดังนั้น ในปีนี้ผลประกอบการก็น่าจะพลิกกลับขึ้นมาได้
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุว่า ผลกระทบจากการชุมนุมที่มีต่อโรงพยาบาลของ BGH 5 แห่ง คิดเป็น 25% ของรายได้ มีรายงานยอดผู้ป่วยลดลงเนื่องจากการชุมนุม และปริมาณผู้ป่วยต่างชาติในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับสถานที่ชุมนุมก็ลดลงด้วย ซึ่งปกติไตรมาสแรกของปีจะเป็นช่วง High Season แต่ Q1/57 ผลประกอบการอาจเติบโตเพียง 7-9% YoY โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 5% จากการปรับราคาขึ้น
ส่วน บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ คาดกำไรของ BGH ใน 4Q56 อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท ลดลง 5% q-q ดีกว่าที่คาดการณ์เดิม 12% เพราะอัตรากำไรสูงกว่าคาด BGH ให้เหตุผลว่าการที่บริษัทฯหันมาเน้นการควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทำให้ EBITDA margin สูงขึ้น
ขณะที่รายได้ใน 21 วันแรกของเดือน ม.ค.เติบโตเกือบ 10% ปัจจัยหนุนคือปริมาณผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น 5-6% และค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นจากการปรับเพิ่มของราคาและความรุนแรงของโรคราว 2-3%
ส่วนความขัดแย้งทางการเมืองส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้ป่วยที่มาใช้บริการ โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณชุมนุมและในจังหวัดท่องเที่ยว แม้ EBITDA margin มีแนวโน้มดีกว่าคาดในปี 57 จากการควบคุมต้นทุน แต่ผลกระทบจากภาวะการทางการเมืองต่อการเติบโตของผู้ป่วย และรายได้ จึงยังคงประมาณการกำไรในปี 57 ที่ 6.7 พันล้านบาท
BGH ได้เปิดโรงพยาบาลกรุงเทพ ไชน่าทาวน์ และจะเปิดอีก 5 แห่ง (ดีบุก,ศรีระยอง,รอยัลพนมเปญ,กรุงเทพเชียงใหม่ และ กรุงเทพขอนแก่น)ช่วงที่เหลือของปี ในขณะที่รพ.สมิติเวชชลบุรี,เปาโลรังสิต และจอมเทียนมีกำหนดเปิดในปี 2015 BGH ยังคงมองหาโอกาสลงทุนใหม่ๆ หรือซื้อโรงพยาบาลในช่วงที่เหลือของปีนี้
บล.บัวหลวง แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 144.00 บาท คาดรายได้ BGH ยังสามารถปรับตัวได้แข็งแกร่งท่ามกลางความไม่สงบทางการเมือง รายได้กลุ่มการแพทย์เติบโต 7% ในไตรมาส 4/56 และโตเกือบ 10% YoY ในเดือนม.ค.57 กำไรไตรมาส 4/56 มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบ YoY และ QoQ แต่ให้สมมติฐานรายได้กลุ่มการแพทย์เติบโต 9% ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับความวุ่นวายทางการเมืองในปี 53 เล็งขยายธุรกิจเปิดตัวโรงพยาบาล 6 แห่งใหม่ในปีนี้