(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวน์ตามตลาดตปท.หลังร่วงไปค่อนข้างมาก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 5, 2014 09:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวน์ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดสหรัฐฯต่างรีบาวน์ขึ้นกันทั่วหน้า หลังจากที่ได้ปรับตัวลงไปค่อนข้างมากเมื่อวานนี้

ส่วนตลาดบ้านเราก็ยังมีปัจจัยการเมืองในประเทศกดดันเหมือนเดิม ซึ่งก็ยังวางใจไม่ได้ และยังต้องติดตามดูต่อไปอย่างใกล้ชิด พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,273-1,285 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(4 ก.พ.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,445.24 จุด เพิ่มขึ้น 72.44 จุด(+0.47%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,755.20 จุด เพิ่มขึ้น 13.31 จุด(+0.76%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,031.52 จุด เพิ่มขึ้น 34.56 จุด(+0.86%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 204.63 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 167.11 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 172.40 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.10 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.00 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.01 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 21.15 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 25.79 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นเวียดนาม ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน

  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(4 ก.พ.)ที่ 1,276.84 จุด ลดลง 15.97 จุด (-1.24%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,886.63 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ก.พ.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(4 ก.พ.)ที่ 97.19 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.76 ดอลลาร์หรือ 0.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(4 ก.พ.)ที่ 7.31 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.76 แนวโน้มทรงตัวขาดปัจจัยใหม่หนุน
  • แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มดิบได้ปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องล่าสุดราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับขึ้นมาอยู่ที่ 35 บาท/กก.แล้ว เพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปีที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่ 30-31 บาท/กก.สาเหตุเพราะราคาผลปาล์มทะลายได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 5.5-6.20 บาท/กก. จากปลายปีราคาแค่ 4-5 บาท/กก. เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดู ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย
  • นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าขณะนี้หอการค้าฯ ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจรายสาขา เพื่อผลักดันให้การส่งออกปีนี้ขยายตัวได้ที่ 4-5% ภายใต้สถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะยังไม่มีรัฐบาลที่ทำงานได้เต็มที่อีกนาน
  • "แบงก์ชาติ"เปิดผลสำรวจแนวโน้ม สินเชื่อสถาบันการเงินไตรมาสแรกปีนี้ พบส่วนใหญ่ยกระดับเข้มงวดปล่อยสินเชื่อครัวเรือนทุกประเภทขึ้นอีก หลังกังวลคุณภาพสินเชื่อที่ปล่อยไป สะท้อนมุมมองความเสี่ยงเสถียรภาพภาคครัวเรือนที่เพิ่ม ขณะที่ความต้องการสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่เริ่มทรงตัวเป็นครั้งแรกรอบ 5 ปี เหตุเอกชนชะลอลงทุน หวังรอความชัดเจนเศรษฐกิจ
  • "ประกันภัย"ประเมินครึ่งปีแรกอัตราการเติบโตทั้งระบบโตต่ำกว่า 10% เนื่องจากผลกระทบการเมือง กับเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง และไม่มีโครงการรถคันแรก ส่งผลให้ประชาชนชะลอการจับจ่ายใช้สอย ขณะที่ภาคธุรกิจเบนเข็มหันมาเน้นบริการแทนการดั๊มราคา

*หุ้นเด่นวันนี้

  • JAS(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 9 บาท คาดราคาหุ้น JAS จะ Outperform ตลาดได้ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า จากปัจจัยบวก คือการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน(IFF) ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วง 2Q57 และเชื่อว่ามีโอกาสที่บริษัทจะจ่ายเงินปันผลพิเศษหลังเสร็จสิ้นการจัดตั้งกองทุนได้ราวหุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 13.9%
ส่วนผลประกอบการ 4Q56 ยังมีทิศทางขยายตัวต่อเนื่องทั้ง yoy และ qoq เป็น 800 ล้านบาท +/- จาก 3Q56 ที่ 762 ล้านบาท ตามจำนวนลูกค้าบรอดแบน ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกราว 60,000 คน ใน 4Q56
  • SIRI(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 2.90 บาท เป็นหุ้นที่มี Downside Risk ในระยะ 3-6 เดือนจำกัด แม้ว่าจะเป็นในสถานการณ์เลวร้ายที่ SET จะปรับตัวลงไปที่ 1,205 จุดอีกครั้ง จากการที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาแล้วราว 57% เทียบกับ SET ที่ปรับตัวลงมา 22% จาก 1,650 จุด และล่าสุดราคาหุ้นของ SIRI ลงมาซื้อขายที่ระดับต่ำกว่าราคาในช่วงที่ SET อยู่ที่ 1,205 จุดเมื่อวันที่ 6 ส.ค.2555 ที่ 2.40 บาทแล้วราว 24% ขณะที่บริษัทมีงานในมือปัจจุบันอยู่ในระดับสูงราว 2 หมื่นล้านบาท เป็นหลักประกันต่อการบันทึกรายได้ในปี 2557 และคาดเห็นการฟื้นตัวของผลประกอบการชัดเจนใน 2H57
  • SAMART(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 27.40 บาท แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นมา 4.8% ตั้งแต่ที่แนะนำไปครั้งล่าสุด 30 ม.ค.2557 แต่มองราคาหุ้นในปัจจุบันยังคงไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานของบริษัท แม้ว่าจะพิจารณาเฉพาะกรณีแย่ที่สุดก็ตาม ทั้งนี้แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากการที่สัดส่วนกำไรของ SAMART กว่า 70% มาจาก SIM และ SAMTEL ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค และการลงทุนในประเทศ แต่ในกรณีแย่ที่สุดที่ตั้งสมมติฐานให้กำไรสุทธิของ SIM และ SAMTEL ลดลง 24% และ 31% จากกรณีปกติ ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าเหมาะสมลดลงเป็น 21.50 บาท แต่ถ้าเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบันยังคงมี Upside สูงถึง 42%
  • ROJNA(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 8.40 บาท คาดผลประกอบการพลิกเป็นกำไร 82 ล้านบาทใน 4Q13 หลังขาดทุนติดต่อกัน 2 ไตรมาส เพราะเริ่มมียอดโอนที่ดินเข้ามาบ้าง การขายไฟฟ้าเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ และ TICON(ROJNA ถือ 20.6%) มีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้า Property fund ส่วนปี 2014 แนวโน้มกำไรปกติจะดีขึ้นมากเป็น 1.15 พันล้านบาทเพราะน่าจะโอนที่ดินผืนใหญ่ 1.6 พันไร่ของ HONDA ได้ ปัจจุบันมี PE เพียง 9.4 เท่า ถูกกว่าช่วงชุมนุมเสื้อแดงปี 2010 และถูกกว่าช่วงน้ำท่วมปี 2011

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ