ทั้งนี้ กสท.เห็นว่าการให้บริการของ ADVANC เป็นการให้บริการในลักษณะบริการโทรศัพท์ประจำที่ ทั้ง ๆ ที่ ADVANC ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีสิทธิเฉพาะในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แก่บุคคลโดยทั่วไป ตามสัญญาอนุญาตให้ดำเนินกิจการบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ลงวันที่ 27 มีนาคม 2533 ย่อมต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมจาก กสทช.เสียก่อน โดยมีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับผู้รับใบอนุญาตรายอื่นที่ประกอบกิจการในลักษณะหรือประเภทเดียวกัน
ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 และตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช.ประกาศกำหนด ดังนั้น มติของ กสทช.จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายสมควรต้องเพิกถอนเสีย และเมื่อศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของ กสทช.แล้วก็ย่อมมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมายและประกาศที่ใช้บังคับอยู่ในขณะพิจารณา
อนึ่ง คดีนี้เป็นคดีพิพาทระหว่าง บมจ. กสท. โทรคมนาคม กับ กสทช.หรือเดิมคือคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดย กสท.ฟ้องขอให้ กสทช.ไต่สวน ADVANC กรณีให้บริการเชื่อมต่อวงจรด้วยระบบเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงจากชุมสายโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้าสู่ระบบตู้สาขาอัตโนมัติ ซึ่งในทางเทคนิคแล้วถือเสมือนเป็นการให้บริการโทรศัพท์ประจำที่