สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB196A และ LB155A (รุ่นอายุ 3.3 ปี, 5.3 ปี และ 1.3 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 13,777 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)(BAY142B) มูลค่า 569.0 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด (MPSC20OA) มูลค่า 105.0 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SC165A) มูลค่า 81.2 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 755.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 54.7% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 7,010 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 605 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -8,695 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.24% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.36% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ค่อนข้างนิ่ง ในทุกช่วงอายุตราสาร โดยต่างชาติยังคงมีแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงจาก Emerging Market จากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจและค่าเงิน ซึ่งส่งผลต่อ Market Sentiment ในเชิงลบ ทั้งนี้ กนง.ได้เผยแพร่รายงานการประชุมครั้งล่าสุดซึ่งระบุว่า ได้ปรับ