ทริสจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ วงเงิน 3.2 พันลบ.THAI ที่ระดับ A+/Negative

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 6, 2014 17:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 3,200 ล้านบาทของ บมจ.การบินไทย(THAI)ที่ระดับ “A+"ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A+" เช่นกัน ทั้งนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังคงเป็น “ลบ" โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระคืนหนี้ที่ใกล้ครบกำหนดไถ่ถอนและใช้เป็นทุนสำหรับการดำเนินงาน

อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจการบินระหว่างประเทศในเส้นทางการบินของประเทศไทยและประโยชน์จากการเป็นสมาชิก Star Alliance ซึ่งเป็นเครือข่ายพันธมิตรสายการบินที่ใหญ่ที่สุด อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการมีภาระหนี้ที่ค่อนข้างสูง ตลอดจนความเสี่ยงจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผันผวน ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ความเสี่ยงจากเหตุการณ์ต่าง ๆ และการแข่งขันที่รุนแรง โดยอันดับเครดิตยังได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทซึ่งสะท้อนถึงการสนับสนุนจากภาครัฐในฐานะที่บริษัทเป็นรัฐวิสาหกิจและสายการบินแห่งชาติ

ปัจจุบัน กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในสัดส่วน 51% ณ เดือนกันยายน 2556 โดยสถานะการเป็นรัฐวิสาหกิจยังรวมถึงการถือหุ้นในสัดส่วน 2.1% ของธนาคารออมสินด้วย ในขณะที่หุ้นของบริษัทในสัดส่วน 15.4% ที่ถือโดยกองทุนวายุภักษ์นั้นจัดเป็นการถือหุ้นโดยผู้ลงทุนภาคเอกชนแม้กองทุนวายุภักษ์จะได้รับการจัดตั้งโดยกระทรวงการคลังเพื่อลงทุนในรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม

แนวโน้มอันดับเครดิต“Negative"หรือ“ลบ"สะท้อนถึงอัตรากำไรของบริษัทที่ปรับลดลงเนื่องจากต้นทุนที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับต้นทุนเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากอัตรากำไรของบริษัทยังคงอยู่ในระดับต่ำและ/หรืออัตราความสามารถในการชำระหนี้ อยู่ในระดับต่ำกว่า 1 เท่า ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวยังอยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจการบินระหว่างประเทศของไทยเอาไว้ได้ และบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ต่อไปโดยเฉพาะในช่วงที่บริษัทเผชิญกับสถานการณ์วิกฤติต่าง ๆ

THAI เป็นหนึ่งในสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเซียซึ่งให้บริการการบินคุณภาพสูง บริษัทพยายามเพิ่มสัดส่วนทางการตลาดในกลุ่มลูกค้าระดับกลางทั้งในเส้นทางการบินภายในประเทศและในภูมิภาคเอเชีย บริษัทจึงได้เปิดให้บริการสายการบินระดับกลางภายใต้ชื่อ“ไทยสมายล์"ในช่วงกลางปี 2555 ซึ่งเป็นสายการบินอีกทางเลือกหนึ่งที่เน้นการให้บริการในเส้นทางบินพิสัยใกล้ โดย ณ เดือนกันยายน 2556 บริษัทให้บริการเส้นทางการบินระหว่างประเทศ ณ สนามบินปลายทาง 68 แห่งทั่วโลก ด้วยเที่ยวบินจำนวน 655 เที่ยวต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ บริษัทยังถือหุ้นในสัดส่วน 39.2% ใน บมจ.สายการบินนกแอร์(NOK) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำรายสำคัญในประเทศไทยด้วย

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น 22.0% เป็น 19.49 ล้านคน อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารของบริษัทลดลงจากระดับ 76.7% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 เป็น 75.2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 เนื่องจากความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 8.5% สู่ระดับ 63,415 ล้านที่นั่ง-กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ในด้านการขายนั้น ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารของบริษัทเพิ่มขึ้น 6.4% สู่ระดับ 47,683 ล้านคน-กิโลเมตร แม้จะมีการเดินประท้วงรัฐบาลซึ่งเริ่มในเดือนพฤศจิกายน 2556 แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเพิ่มขึ้น 11.6% ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารของบริษัทกลับปรับตัวลดลง 5.2% สู่ระดับ 71.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่อัตราส่วนการขนส่งพัสดุภัณฑ์ลดลงจากระดับ 54.1% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 เป็น 50.3% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยเติบโตอย่างเข้มแข็ง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศเติบโตในระดับตัวเลข 2 หลักตั้งแต่ปี 2553 แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อัตรากำไรของบริษัทกลับผันผวนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานปรับตัวลดลงอย่างมากในปี 2554 และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 โดยในปี 2554 อัตราส่วนกำไรปรับลดลงเนื่องจากต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้นและผลกระทบของมหาอุทกภัยในไตรมาสสุดท้ายของปี

ส่วนการปรับตัวลดลงของอัตรากำไรของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 มาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันเป็นปัจจัยหลักโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขายและโฆษณา ทั้งนี้ ราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับสูงแม้ว่าปรับราคาลงเล็กน้อยในปี 2556 นอกจากนี้ การต่อสู้ทางการเมืองที่รุนแรงขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 และออกประกาศเตือนประชาชนของตนในหลาย ๆ ประเทศที่จะเดินทางมาประเทศไทย หากยืดเยื่อเป็นระยะเวลายาวนานจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทในปี 2557

นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังมีความกังวลอย่างมากต่อต้นทุนที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอันดับเครดิตจะได้รับผลกระทบทางลบอย่างมากหากในปี 2556 อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ในระดับต่ำกว่าตัวเลข 1 หลักมาก

ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายและปรับปรุงผลการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนคุณภาพความน่าเชื่อถือของบริษัท ทั้งนี้ จากสถิติในอดีตพบว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังจากวิกฤตการณ์ในแต่ละครั้งได้รับการแก้ไข ดังนั้น หากความตึงเครียดทางการเมืองจบลงภายในครึ่งแรกของปี 2557 ผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจะอยู่ในวงจำกัด

สภาพคล่องของบริษัทอ่อนแอลง โดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายก็ปรับตัวลดลง 4.3 เท่าในปี 2555 เป็น 2.9 เท่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 ส่วนอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมปรับตัวลดลงจากระดับ 15.5% ในปี 2555 สู่ระดับ 11.4% (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ณ สิ้นเดือนกันยายน 2556

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทเข้าสู่ช่วงลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของฝูงบิน ดังนั้น อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจึงเพิ่มขึ้นจาก 70.5% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 เป็น 76.6% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2556 โดยในช่วง 5 ปีข้างหน้า บริษัทจะรับมอบเครื่องบินจำนวน 36 ลำ โดยเครื่องบินจำนวน 21 ลำเป็นการเช่าดำเนินงาน และอีก 15 ลำเป็นการเช่าทางการเงิน ผลการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากได้รับมอบเครื่องบินใหม่เนื่องจากการใช้งานเครื่องบินใหม่จะเกิดผลประโยชน์หลายประการ เช่น ปริมาณการใช้น้ำมันและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่ลดลง ทั้งนี้ คาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุดในปี 2557 โดยทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะมีแผนลดภาระหนี้ในระยะปานกลาง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ