สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB145B, LB196A และ LB176A (รุ่นอายุ 0.3 ปี, 5.3 ปี และ 3.3 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 5,931 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT155A) มูลค่า 546.9 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY142B) มูลค่า 445.2 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC153A) มูลค่า 208.2 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,200.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 47.5% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,500 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 434 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,194 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.24% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.36% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve นิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร ท่ามกลางปริมาณซื้อขายที่เบาบาง โดยล่าสุดดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ ขยายตัวมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นักลงทุนยังคงรอติดตามข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. รวมถึงประเด็นเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดในวันที่ 7 ก.พ. นี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 1,194 ล้านบาท