(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าขึ้นต่อตามตลาดตปท. ตอบรับตัวเลขสหรัฐฯที่สะท้อนศก.ยังดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 7, 2014 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้อาจจะปรับตัวขึ้นต่อ ตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้นไปได้ค่อนข้างดี โดยที่วานตลาดหุ้นดาวโจนส์ และตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นมากกว่า 1 % หลังจากสหรัฐประกาศตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ก.พ. ปรับตัวลดลง 20,000 ราย สู่ระดับ 331,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงแตะระดับ 335,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่ดี

ส่วนธนาคารกลางยุโรป(ECB)มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% แต่เปิดช่องที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก และพร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม เพื่อสะกัดภาวะเงินเฟื้อที่เริ่มชะลอตัวลง ที่อาจจะส่งผลให้เข้าสู่ภาวะเงินฝืด

สำหรับปัจจัยภายในประเทศนั้นยังต้องรอติดตาม ศาลแพ่งนัดสืบพยาน เพิกถอนการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในวันที่ 12 ก.พ.

พร้อมให้แนวรับที่ 1,285 จุด และแนวต้าน 1,310 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(6 ก.พ.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,628.53 จุด เพิ่มขึ้น 188.30 จุด(+1.22%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,773.43 จุด เพิ่มขึ้น 21.79 จุด(+1.24%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,057.12 จุด เพิ่มขึ้น 45.57 จุด(+1.14%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 231.99 จุด หรือ +1.64% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.56 จุด หรือ +0.76% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 72.98 จุด หรือ +0.86% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.81 จุด หรือ +0.05%, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 15.26 จุด หรือ +0.51% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 74.96 จุด หรือ +0.35% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ไม่เปลี่ยนแปลง, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.84 จุด หรือ +0.08%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 10.76 จุด หรือ -0.53%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(6 ก.พ.)ที่ 1,295.24 จุด เพิ่มขึ้น 14.99 จุด (+1.17%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,294.89 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ก.พ.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(6 ก.พ.)ที่ 97.84 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.46 ดอลลาร์หรือ 0.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(6 ก.พ.)ที่ 6.58 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.79/81 รอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ
  • นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. 2557 จากการสอบถามประชาชนทั่วประเทศ 2,253 ตัวอย่าง พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความกังวลสถานการณ์ทางการเมือง ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 71.5 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และต่ำสุดในรอบ 26 เดือนนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2555 เป็นต้นมา
  • นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยว่า แม้ไทยจะมีปัญหาการชุมนุมมายืดเยื้อแต่ค่าเงินบาทค่อนข้างนิ่ง ไม่ผันผวนมาก เนื่องจากเงินทุนไหลเข้าออกค่อนข้างสมดุล แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยยังต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะออกมาใน 1-2 วันนี้ ที่อาจทำให้ตลาดปรับมุมมองเกี่ยวกับฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป
  • "จรัมพร"ระบุตลาดหุ้นถูกกระทบทั้งปัจจัยภายในและต่างประเทศ พร้อมปรับแผนโรดโชว์ต่างประเทศใหม่ รอสถานการณ์การเมืองสงบ-เศรษฐกิจกระเตื้อง หลังประเมินการเมืองลากยาวถึงกลางปี โดยแผนโรดโชว์เน้นเจาะประเทศลุ่มน้ำโขงเหตุขยายตัวสูง เล็งหั่นเป้าวอลุ่มตลาดเหลือ 4 หมื่นล้านบาทจากเดิม 5 หมื่นล้านบาท
  • ศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่น ราคาทองเดือนก.พ. ลดลงจากเดือนก่อนอยู่ที่ 53.55 จุด หลังราคาพุ่งนำไปก่อนหน้านี้ ชี้ส่วนใหญ่ยังมีมุมมองเชิงบวก โดยได้การอ่อนค่าของเงินบาทหนุนราคาทองในประเทศเพิ่ม ส่วนความเชื่อมั่น ระยะยาวยังซบ วิตกลดมาตรการ "คิวอี" ด้านผู้ค้ามองกรอบเคลื่อนไหว 1,160-1,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  • รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานภาคใต้ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจภาคใต้ปี 2557 จะปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะในสหรัฐและยุโรป ซึ่งจะเอื้อต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกได้ระดับหนึ่ง และคาดว่าผลผลิตการเกษตรจะปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน โดยคาดว่าปัญหาโรคระบาดในกุ้งขาวจะคลี่คลายลง ขณะที่การใช้จ่ายของภาคเอกชนจะได้รับแรงหนุนจากการปรับลดอัตราภาษีใหม่ และผู้ประกอบการบางรายอาจเดินหน้าแผนลงทุนหลังจากที่ชะลอไปในปีที่ผ่านมา

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SIM(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 5.30 บาท ธุรกิจขายเครื่องโทรศัพท์มือถือของ SIM แทบไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองเลย โดยที่ทั้งปี 2557 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% YoY ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการขาย Smart Phone ราคาเครื่องเฉลี่ย 4-6 พันบาท และธุรกิจ MVNO 3G TOT ที่มีโอกาสพลิกกลับมามีกำไรในครึ่งปีหลัง หลังสถานี้ให้บริการ 3G TOT ทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ใน 1Q57 ประเมินกำไรสุทธิปี 2557 ที่ 969 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% YoY
  • AMATA (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 18.50 บาท มองหุ้นปรับตัวลงมามากกว่าพื้นฐานค่อนข้างมาก สะท้อนออกมาจากการที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมามากกว่าค่าเบต้าของตัวเอง หรือมี Negative Abnormal Return สูงถึง 25% ในช่วงที่ตลาดในภาพรวมปรับตัวลงมาตั้งแต่ 21 พ.ค.56-31 ม.ค.57 และราคาหุ้นในปัจจุบันของ AMATA ซึ่งขายอยู่ต่ำกว่าราคา 17.30 บาทช่วงที่ SET อยู่ที่ 1,205 จุดเมื่อ 6 ส.ค.2555 ราว 25% ขณะที่ประเมินกำไรสุทธิในปี 2557 ไว้ที่ 1.81 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และคาดการณ์ Dividend Yield ในปี 2557 ไว้ที่ 5.6%
  • BECL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 50 บาท ปริมาณการใช้ทางด่วนเฉลี่ยต่อวันใน 4Q13 -2.3% Q-Q, -1.6% Y-Y จากเหตุการเมืองและมีวันหยุดมาก แต่ชดเชยได้จากการขึ้นค่าทางด่วนตั้งแต่ 1 ก.ย. 2013 ทำให้เราคาดกำไรปกติใน 4Q13 +53% Y-Y แต่ลดลง 14% Q-Q จากกำไรของ TTW และ CKP ที่ลดลง สำหรับปี 2014 เราคงประมาณการเดิมที่คาดกำไรโตแข็งแกร่ง 27% Y-Y จากการขึ้นค่าทางด่วนและคาดกำไรจาก TTW และ CKP ดีขึ้น
  • SAMART(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"คาดกำไร 4Q13 -19% Q-Q, +24% Y-Y ตามทิศทางเดียวกับ SIM และ SAMTEL ที่กำไรลด Q-Q แต่เพิ่ม Y-Y จึงคงประมาณการกำไรปี 2013 ที่คาดโต 33% Y-Y และปี 2014 คาดโต 10% ราคาหุ้นปรับลงมาจนมี PE 10.7 เท่า ใกล้เคียงจุดต่ำสุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่ 9-10 เท่า และยังมี Upside จากงานติดตั้งอุปกรณ์โครงข่ายทีวีดิจิตอล และนำธุรกิจ Call Center เข้าตลาดฯ ใน 1H14

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ