(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดตปท. ขานรับปัจจัยใน-นอกปท.เกื้อหนุน

นอกจากนี้ การลดมาตรการ QE น่าจะไม่เร่งรีบ เนื่องจากสภาพอากาศทางสหรัฐฯเลวร้ายในปีนี้ ทำให้เศรษฐกิจมีสัญญาณการชะลอตัว จึงส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ได้มีการปรับตัวขึ้น ซึ่งตลาดบ้านเราก็คงจะได้รับแรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมี ด้วย

ส่วนตลาดบ้านเราคาดว่าต่างชาติน่าจะซื้อสุทธิได้ เนื่องจากแรงขายของต่างชาติเริ่มชะลอลง และเงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้นในรอบ 1 เดือน อีกทั้งได้เห็นสัญญาณในตลาดฟิวเจอร์ที่เริ่มมีการทำ long กันมากขึ้น แต่การซื้อของต่างชาติคงจะเป็นลักษณะของการซื้อคืนหลังจากที่ขายไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งช่วงนี้ก็เป็นช่วงของการเก็งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,285 จุด แนวต้าน 1,310-1,320 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(7 ก.พ.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,794.08 จุด เพิ่มขึ้น 165.55 จุด(+1.06%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,797.02 จุด เพิ่มขึ้น 23.59 จุด(+1.33%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,125.86 จุด เพิ่มขึ้น 68.74 จุด(+1.69%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 185.42 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.48 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.90 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 29.07 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.75 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.39 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(7 ก.พ.)ที่ 1,296.49 จุด เพิ่มขึ้น 1.25 จุด(+0.10%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 133.30 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ก.พ.57
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(7 ก.พ.)ที่ 99.88 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.04 ดอลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(7 ก.พ.)ที่ 6.77 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 32.78/80 คาดแกว่งแคบ มองกรอบ 32.75-32.85 จับตาทิศทางดอลล์
• กรมบัญชีกลางเผยมีงบลงทุนวงเงินเกินกว่า 100 ล้านบาท ประมาณ 6.6 หมื่นล้านบาท ที่อาจลงทุนไม่ได้ตามเป้า เหตุ ครม.รักษาการไม่สามารถอนุมัติได้ เล็งเสนอปรับลดเป้าเบิกจ่ายทั้งปี ต่อคณะกรรมการเร่งรัดการเบิกจ่าย หลังประเมินเบิกจ่ายได้รับผลกระทบจากปัญหาการชุมนุมการเมือง ฉุดภาพรวมเศรษฐกิจ แม้ระยะ 4 เดือนแรก เบิกจ่ายจะสูงกว่าเป้า 7.51%
• คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.)เชิญผู้ชนะการประมูลทีวีดิจิตอลประเภทบริการธุรกิจ ทั้ง 24 ช่อง เข้าหารือก่อนมอบใบอนุญาต โดยมี 3 ประเด็นหลักที่เอกชนต้องการความชัดเจน คือ การจัดเรตติ้ง การจัดเรียงช่องในระบบเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม และความพร้อมของผู้ให้บริการโครงข่าย (มักซ์)
• นางเพียงใจ แก้วสุวรรณ นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอาเซียน เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการอีโคคาร์เฟส 2 ว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้เรียกบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่สนใจเข้าร่วมโครงการมาชี้แจงรายละเอียดเงื่อนไขและข้อกำหนด พร้อมยืนยันว่าจะไม่เลื่อนระยะเวลาสิ้นสุดการรับสมัครเข้าร่วมโครงการที่กำหนดไว้วันที่ 31 มี.ค. 2557 แน่นอน
• กองทุนประกันสังคม เผยผลตอบแทนการลงทุนปี 2556 โต 5% อานิสงส์ผลการลงทุนในตลาดทุนไทยปรับขึ้น ยอมรับห่วงสถานะกองทุนติดลบในอีก 25-30 ปีข้างหน้า จาก ภาระการจ่ายสิทธิประโยชน์หลังเกษียณการทำงานสูงถึง 4-5 ล้านล้านบาท เตรียมแจ้ง "แบงก์ชาติ" รับทราบ พร้อมช่วยหาแนวทางรับมือ หวั่นกระทบเสถียรภาพการเงินประเทศในอนาคต
• ธปท.เผยนักธุรกิจไทยคาดว่าภาวะธุรกิจจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย การบริโภคชะลอตัวจากกำลังซื้อครัวเรือนมีจำกัดและรายได้เกษตรมีแนวโน้มลดลง และปัญหาการเมืองอาจจะซ้ำเติมให้เลื่อนการบริโภค ส่วนการลงทุนรอความชัดเจนภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ขณะที่ธุรกิจอาหาร สิ่งทอ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ห่วงลูกค้ากระจายคำสั่งซื้อไปประเทศอื่นแทน ขณะเดียวกันมองนักท่องเที่ยวหันไปเที่ยวภาคเหนือและใต้มากขึ้น
• ธปท.ร่อนจดหมายเวียนให้บริษัทในเครือธนาคารพาณิชย์และสาขาธนาคารต่างชาติ บันทึกและรายงานเงินกองทุนเป็นไปตามหลักเกณฑ์ Basel III เช่นเดียวกับแนวทางปฏิบัติธนาคารพาณิชย์ไทย เพื่อรองรับความเสี่ยงตลาดมากขึ้น ขณะเดียวกันให้สาขาธนาคารต่างชาติบันทึกข้อมูลเงินกองทุนถี่ขึ้นเป็นทุก 1 เดือน จากเดิม 3 หรือ 6 เดือน เพื่อสะท้อนมูลค่าตลาดที่เป็นปัจจุบันดียิ่งขึ้น

*หุ้นเด่นวันนี้

• HEMRAJ(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 3.70 บาท ประเมินบริษัทจะประกาศกำไรสุทธิใน 4Q56 ออกมาสูงที่สุดของปี 2556 และโดดเด่นที่สุดในกลุ่มหุ้นที่ศึกษาอยู่ โดยประเมินกำไรสุทธิไว้ที่ 2.67 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 328% QoQ และ 230% YoY โดยจะมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากการบันทึกกำไรจากการตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (HPF) เข้ามา 1.4 พันล้านบาท และการลงทุนใน GHECO-ONE เข้ามา 118 ล้านบาท ทั้งนี้ผลกระทบจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน HPF อาจส่งผลให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลในงวด 2H56 และเงินปันผลพิเศษได้ราว 0.15 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น Dividend Yield สูงถึง 5%
• HMPRO(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 12.50 บาท ประเมินบริษัทจะประกาศกำไรสุทธิใน 4Q56 ออกมาดีที่สุดของปี และทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ 932 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% QoQ และ 8% YoY โดยจะมีปัจจัยหนุนจาก SSSG เพิ่มขึ้น 2.5% และยอดขายจากงาน HomePro Expo ขณะที่ผลประกอบการในปี 2557 ประเมินกำไรสุทธิไว้ที่ 3.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% YoY ขณะที่ระยะต่อไปราคาหุ้น HMPRO จะมีประเด็นเก็งกำไรเพิ่มเติมจากการออก Property Fund ร่วมกับ LH อีกครั้ง
• ADVANC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 333 บาท จะรายงานงบฯ 4Q56 พรุ่งนี้(11 ก.พ.)คาดกำไรปกติ 4Q56 จะมีทิศทางขยายตัว +6% yoy และ +8% qoq เป็น 9,074 ล้านบาท โดยรายได้จากการให้บริการ Non-Voice ยังมีทิศทางขยายตัวในระดับสูง +23% yoy และ +8% qoq และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี โดยคาดการณ์เงินปันผล 2H56 หุ้นละ 5.35 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.5% ด้านกำไรปกติปี 2557 คาดว่าจะเติบโต +27.1% yoy เป็น 46,449 ล้านบาท จากต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ที่ลดลง
• SINGER(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"แนวโน้มกำไรใน 4Q13 ชะลอทั้งที่เป็นฤดูขายสินค้า แต่การชุมนุมและเศรษฐกิจชะลอ ทำให้คาดกำไร -16% Q-Q สำหรับปี 2014 ปรับกำไรลง 14% จากกำลังซื้อที่ชะลอและการเก็บหนี้ที่อาจล่าช้า เพราะบริษัทมีลูกค้าที่เป็นเกษตรกรประมาณ 25% แต่ Collection rate ของบริษัทที่สูง 90% เป็นทุนเดิม ทำให้ไม่ได้กังวลมากนัก อย่างไรก็ตาม กำไรที่ปรับลงยังเติบโต 12% Y-Y จากสินค้าเดิมและสินค้าใหม่คือดิจิตอลทีวี และ Set-top box รวมทั้งขยายตลาดมากขึ้น พร้อมปรับเป้าหมายลงเป็น 25 บาทจาก เป็น 33.40 บาท