(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ทรงตัวแบบแกว่งไซต์เวย์ รอประเด็นใหม่เข้ามา

ด้านตลาดเพื่อนบ้านเช้านี้ส่วนใหญ่ก็เคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อย ซึ่งตลาดญี่ปุ่นวันนี้ได้ปิดทำการ โดยตลาดฯยังรอดูท่าทีเรื่องของมาตรการ QE อยู่ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

"ตลาดมีความพยายามที่จะยืนเหนือระดับ 1,300 จุด แต่ด้วยปัจจัยตลาดฯ และวอลุ่มไม่เข้า อีกทั้งต่างชาติ รวมถึงหุ้นขนาดใหญ่ไม่ขยับเลย ดังนั้นช่วงนี้ตลาดฯจึงไม่ค่อยไปไหน การเล่นก็เป็นลักษณะของการเล่นเก็งกำไร"

พร้อมให้แนวรับ 1,286 จุด แนวต้าน 1,306 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(10 ก.พ.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,801.79 จุด เพิ่มขึ้น 7.71 จุด(+0.05%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,799.84 จุด เพิ่มขึ้น 2.82 จุด(+0.16%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,148.17 จุด เพิ่มขึ้น 22.31 จุด(+0.54%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 44.53 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 21.91 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.15 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.06 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.62 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.11 จุด

ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันสถาปนาประเทศ

• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(10 ก.พ.)ที่ 1,290.66 จุด ลดลง 5.83 จุด (-0.45%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 792.39 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ก.พ.57
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(10 ก.พ.)ที่ 100.06 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.18 ดอลลาร์หรือ 0.2%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(10 ก.พ.)ที่ 6.60 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดเปิด 32.79/81 คาดแกว่งแคบ รอปธ.เฟดคนใหม่แถลงนโยบาย
• เวทีเจรจาแก้ปัญหาจำนำข้าวล่ม ชาวนาวอล์คเอาท์ ประกาศยกระดับปิดคลังข้าวทั่วประเทศ หลังรัฐบาลไม่ให้คำตอบจ่ายเงิน ชาวนาโต้เดือด "นิวัฒน์ธำรง" กลางที่ประชุมจ่ายค่าข้าว 6 หมื่นล้านให้กับใคร ด้าน "ณัฐวุฒิ" อึ้งชาวนาตะโกนใส่จี้ตอบคำถามจ่ายเงินคืน ขณะ ครม.วันนี้ขอเบิกงบกลาง 712 ล้านบาท จ่ายชาวนาอีก 2,900 ราย สภาทนายความ ระบุ ชาวนาเสียหาย 3-6 แสนบาทต่อราย
• นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองอย่างหนักจนอาจจะเติบโต 0-1% แต่ไม่แย่จนถึงขั้นถดถอย
• แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รายงานให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม และรัฐบาลทราบว่า ผลของการมีรัฐบาลรักษาการอย่างยาวนานนั้นกระทบต่อแผนการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่และโครงการที่ลงทุนตั้งแต่ 101-1,000 ล้านบาทขึ้นไป โดยขณะนี้มีหลายโครงการที่ต้องการใช้เงินลงทุนร่วม 2 หมื่นล้านบาทต้องชะงักทันที
• อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้สั่งปรับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว 29 แห่ง วงเงิน 200 ล้านบาท ในปีใหม่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่ยืดเยื้อ โดยจะหลีกเลี่ยงแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯและปริมณฑล และพื้นที่เดินทาง 200-300 กิโลเมตร เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอการเดินทางไปเน้นพื้นที่อื่นๆแทน
• นายฮาเรน ชาห์ ผู้อำนวยการและนักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโส บริการบริหารความมั่งคั่งของซิตี้แบงก์ ภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก เปิดเผยรายงานแนวโน้มการลงทุนประจำปี 2557 ของซิตี้โกลด์ ในหัวข้อ "การเปลี่ยนแปลงสู่การเติบโต" ว่าคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะสามารถขยายตัวได้เพียงระดับ 3.1% เท่านั้น โดยเป็นผลมาจากการใช้จ่ายที่ชะลอตัวและความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการชะลอตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี)
• ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานปริมาณการใช้บัตรเครดิตทั้งระบบล่าสุด ณ สิ้นเดือน ธ.ค.56 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรรวมทั้งสิ้น 1.51 แสนล้านบาท เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนหน้าที่ 1.45 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,396 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.41% แบ่งเป็น การใช้จ่ายในประเทศ 1.28 แสนล้านบาท เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่ 1.23 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,368 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.38% ใช้จ่ายในต่างประเทศ 7,370 ล้านบาท เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน 6,765 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 605 ล้านบาทหรือ 8.94% และการเบิกเงินสดล่วงหน้าผ่านบัตร 1.62 หมื่นล้านบาทเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน 1.57 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 423 ล้านบาท หรือ 2.69%

*หุ้นเด่นวันนี้

• MINT(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 27 บาท มองรับผลกระทบการชุมนุมการเมืองน้อยสุดในกลุ่มโรงแรม เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากโรงแรมในกรุงเทพเพียง 8% ของรายได้รวม ขณะที่บริษัทได้กระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้นทั้งในส่วนของโรงแรมในต่างประเทศ, ธุรกิจอาหาร และอสังหาริมทรัพย์ ช่วยลดความผันผวนของการดำเนินงานในภาพรวมได้ ประเมินกำไรสุทธิในปี 56 และ 57 ไว้ที่ 4.0 และ 4.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 18.8% และ 7.3% YoY ตามลำดับ
• JAS(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 11.20 บาท คาดกำไรสุทธิใน 4Q56 ที่ 769 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% YoY และ 2% QoQ ส่งผลให้ทั้งปี 2556 จะมีกำไรสุทธิ 3.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% YoY ราคาหุ้นยังมีปัจจัยหนุนต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี จากประเด็นการตั้งกองทุน IFF มูลค่า 6-7 หมื่นล้านบาทที่รอ กลต.อนุมัติ ประเมินว่าบริษัทจะได้รับเงินจากการขายทรัพย์สินเข้าหลังหักภาษีและค่าใช้จ่ายราว 2.5-3.0 หมื่นล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเพิ่มต่อหุ้น 0.90 บาท
• TTA(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"สะสม"เป้า 23 บาท ราคาหุ้นวานนี้ปิดที่ระดับต่ำกว่าราคาตลาด ณ วันที่ได้รับสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนและรับฟรีวอแรนท์ 5 ก.พ.ราคาเฉลี่ยเท่ากับ 16.20 บาท ดังนั้น ราคาปิด ณ ปัจจุบันมีต้นทุนที่ต่ำกว่าผู้ที่ใช้สิทธิเพิ่มทุนครั้งล่าสุดนี้ ขณะที่แนวโน้ม 1Q56/57(ต.ค.-ธ.ค.)คาดกำไรสุทธิ 228 ล้านบาท จาก 4Q55/56 ที่ขาดทุน 4.4 พันล้านบาท ภาพรวมปี 56/57 ยังเป็นบวกจากการฟื้นตัวของธุรกิจหลัก 2 ใน 3 ผ่านค่าระวางเรือ และ ธุรกิจ Mermaid Maritime พร้อมคาดจะพลิกกลับมาทำกำไรปี 56/57 ราว 2,313 ล้านบาท จากปีก่อนหน้าขาดทุน 5,080 ล้านบาท