จากข้อมูลของ PWC ซึ่งรวบรวมความคิดเห็นของ CEO ที่มาร่วมงาน World Economic Forum ซึ่งจัดที่ Davos สวิสเซอร์แวนด์ เกี่ยวกับประเทศที่น่าลงทุน (ยกเว้นกลุ่ม BRIC) พบว่าประเทศไทยมีอันดับความน่าลงทุนอยู่ในอันดับที่ 8 ส่วนสหรัฐฯ ได้อันดับที่ 1 ทั้งนี้ อันดับดังกล่าวเป็นความเห็นในระยะเวลา 5 ปีต่อจากนี้ ดังนั้น แม้จะมีอุปสรรคจากการเมือง แต่ในระยะยาวมองว่าเรายังมีความหวังอยู่มาก
ทั้งนี้ Consensus ของนักวิเคราะห์เชื่อว่าเศรษฐกิจประเทศไทยจะเติบโตในระดับต่ำกว่า 3% โดยช่วงครึ่งปีแรกจะไม่โตเลย หรืออาจจะถึงขั้นโตติดลบ แต่ครึ่งปีหลังจะกลับมาโตขึ้นได้ ขณะนี้ประเทศไทยเองมีปัญหาเรื่องการบริโภคภายในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มชาวนาที่ไม่มีเงินไปจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภคแลัว เพราะยังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าว
"ปัจจัยดังกล่าวทำให้เรามองว่าดัชนี SET จะไม่ไปไหน หรือจะยังคงมีลักษณะ Sideway ขึ้นลงในกรอบแคบๆ ดังเดิม เพราะได้สะท้อนปัจจัยลบเข้าไปมากแล้ว" บลจ.บัวหลวงระบุ
บลจ.บัวหลวง แนะนำว่า นักลงทุนที่ยังกังวลอยู่ แนะนำให้พักเงินในกองทุนรวมตลาดเงิน หรือกองทุนตราสารหนี้ นอกจากนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตลาดหุ้นแล้วก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะอัตราผลตอบแทนจากเงินผลเมื่อเทียบกับราคา ณ ปัจจุบัน หลายๆ กองทุนสูงกว่า 10%
สำหรับนักลงทุนที่เชื่อว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์มักจะปรับตัวก่อนเศรษฐกิจจริง 6 เดือน ถึง 1 ปี ขณะนี้ เศรษฐกิจไทยเริ่มมีทิศทางแย่ลงตามดัชนี SET ในปีที่ผ่านมาแล้ว และช่วงนี้ตลาดจะยังอยู่ในช่วงรับข่าวร้ายและไม่มีทิศทางชัดเจน ซึ่งเชื่อว่าหากเริ่มมีข่าวดีแล้วตลาดจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้อีกครั้ง ดังนั้น เป็นช่วงที่ดีที่จะทยอยสะสมหุ้นหรือกองทุนหุ้นเพื่อรอจังหวะการกลับมาของ SET