ทั้งนี้ กองทุน KFGOV6MTG1 ตั้งเป้าจ่ายผลตอบแทนเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าเท่ากับ 10.25 บาท ติดต่อกัน 5 วันทำการ หรือ ณ วันใดวันหนึ่งระหว่าง 5 วันทำการ โดยบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป
นายฉัตรพี กล่าวเสริมว่า จากสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันที่มีผลให้เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ขาดการลงทุนจากภาครัฐเป็นตัวนำ การลงทุนของภาคเอกชนโดยรวมก็ลดลง คาดการณ์ GDP ต่อปี อยู่ในระดับ 2.5-3 % การลงทุนในตลาดหุ้นจะยังคงมีความผันผวนอยู่สูงในระยะสั้น แต่ถ้ามองเป็นการลงทุนระยะยาวถือเป็นโอกาสในการลงทุนได้ เพราะบริษัทจดทะเบียนยังมีศักยภาพที่จะสร้างกำไร และเงินปันผลได้ต่อเนื่อง แนะนำให้ ผู้ลงทุนทยอยลงทุนแบบ DCA เพื่อกระจายความเสี่ยง รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนลงทุนในหุ้นต่างประเทศอย่างยุโรป ที่กำลังฟื้นตัว เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดี
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตราสารหนี้ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับลงทุนในปีนี้ บลจ.กรุงศรี จึงได้มองหาโอกาสและนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมตราสารหนี้รูปแบบใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงสูง
ทั้งนี้ บริษัทมีมุมมองว่าการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรรัฐบาล 6M1 ทริกเกอร์ (KFGOV6MTG1) ถือเป็นช่วงจังหวะเวลาที่ดี เนื่องจากสภาวะตลาดตราสารหนี้ในเวลานี้มีความเหมาะสมและเอื้ออำนวยให้เกิดโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะกลางรุ่นอายุประมาณ 3-5 ปี มีความผันผวนอยู่ในระดับต่ำ และมีแนวโน้มสูงมากที่ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับ 2.00% ต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้พันธบัตรรัฐบาลระยะกลางรุ่นอายุประมาณ 3-5 ปี มีโอกาสสร้างอัตราผลตอบแทนรวมที่ระดับ 5% ต่อปีและเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้กองทุน KFGOV6MTG1 สามารถบรรลุอัตราผลตอบแทนที่ตั้งเป้าหมายไว้
“กองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรรัฐบาล6M1 ทริกเกอร์ (KFGOV6MTG1) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน และต้องการมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก"นายฉัตรพี กล่าว