บริษัทฯได้มองเห็นถึงด้านการคุ้มค่าของราคาหุ้นของยุโรป ขณะนี้มีระดับ P/E ratio ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาค้อนข้างมาก ซึ่งมองว่าเวลานี้ยุโรปน่าสนใจและเหมาะสมแก่การลงทุน โดยจะเน้นลงทุนในกองทุนที่ชื่อ Franklin European Grrowth ซึ่งมีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือได้ โดยเงื่อนไขของกองทุนดังกล่าว เมื่อมีกำไร 5% จะคืนให้กับนักลงทุนก่อน และเมื่อได้อีก 5% หรือ 10.10 บาท จะมีการปิดกองทุนและคืนเงินให้กับนักลงทุน
"ทุกคนต้องยอมรับว่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา การเติบโตของประเทศเกิดใหม่ลดลง และประเทศที่พัฒนาแล้วได้พลิกฟื้นขึ้นมา ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเปลี่ยนทิศทางกระแสเงินไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยเริ่มจาก สหรัฐฯ ตามมาคือญี่ปุ่น และที่กำลังจะมาคือ ยุโรป ที่กำลังพลิกฟื้นจาก ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ก็คาดว่าจะเป็นบวกในปีนี้ เราจึงมองเล็งเห็นว่า ยุโรปเป็นประเทศที่น่าสนใจ ด้วยปัจจัยที่ว่า ยุโรปจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และบริษัทฯจะมีความสามารถทำกำไรดีขึ้นด้วย และทิศทางการไหลของเงินก็เอื้อ รวมถึงนโยบายทางการเงินที่จะหนุมการเติบโต"นายสมจินต์ กล่าว
"บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังมีศักยภาพ ซึ่งความไม่แน่นอนทางการเมืองนั้นยังคงอาจจะยืดเยื้อ แง่มุมของการลงทุนในระดับราคายังคงสมเหตุสมผล ไม่แพงหรือถูกเกินไป แนะนักลงทุนควรลงทุนระยะยาวเพื่อก้าวผ่านความไม่แน่นอนระยะสั้นไปได้ และกระจายเงินทุนออกไปด้วย โดยเน้นหุ้นไทยเป็นหลัก ในสัดส่วน 70:30 เพื่อกระจายความเสี่ยงและได้โอกาสการลงทุนที่เหมาะสม"นายสมจินต์ กล่าว
สำหรับเงินทุนที่ไหลกลับไปยังประเทศที่พัฒนาแล้ว ส่งผลให้ตลาดเกิดใหม่มีความผันผวนและหุ้นมีราคาถูกลง จึงเป็นโอกาสของนักลงทุนที่จะขยายการลงทุนบางส่วนไปยังต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ