TOP เผย Q4/56ขาดทุนจากรายได้ลดลงตามปริมาณการกลั่น-ราคาปิโตรฯ-ราคาน้ำมัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 13, 2014 18:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไทยออยลย์(TOP)ชี้แจงว่า ในไตรมาส 4/56 เครือไทยออยล์มีรายได้จากการขายรวม 107,952 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักจากปริมาณการใช้กำลังการกลั่นลดลง รวมทั้งราคาน้ำมันเบนซินและราคาสารพาราไซลีนที่ปรับลดลง นอกจากนี้ จากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันดิบที่ปรับลดลงเนื่องจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่ลดลง ประกอบกับส่วนต่างราคาพาราไซลีนและ ULG95 ลดลง จากการที่โรงงาน PTA หลายแห่งปรับลดกำลังการผลิตเนื่องจากส่วนต่างของสาร PTA และพาราไซลีนที่ลดลงมาก รวมถึงส่วนต่างราคาน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่ปรับลดลงตามปัจจัยพื้นฐานที่ปรับอ่อนตัวลง ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมัน 4.9 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 3.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลจากไตรมาสก่อน

นอกจากนี้ จากการที่ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบ ณ สิ้นไตรมาส 4/56 ปรับขึ้นเล็กน้อยส่งผลให้มีผลกำไรจากสต็อกน้ำมัน 1,247 ล้านบาท ประกอบกับมีกำไรจากอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยงสุทธิ 388 ล้านบาท ทำให้ EBITDA ของเครือไทยออยล์ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4,257 ล้านบาท ทั้งนี้มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 1,815 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 4/56 ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมากในรอบ 3 ปี

ทั้งนี้ โดยรวมทำให้ในไตรมาส 4/56 เครือไทยออยล์มีผลขาดทุนสุทธิ 14 ล้านบาท หรือขาดทุนต่อหุ้น 0.01 บาท เทียบกับไตรมาส 3/56 เครือไทยออยล์มีกำไรสุทธิ 7,609 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้น 3.73 บาท

เมื่อเทียบผลการดำเนินงานระหว่างไตรมาส 4/56 และไตรมาส 4/55 เครือไทยออยล์มีรายได้จากการขายลดลง 3,803 ล้านบาท จากปริมาณการใช้กำลังการกลั่นลดลงและราคาผลิตภัณฑ์เฉลี่ยลดลง ประกอบกับส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบของธุรกิจโดยรวมลดลง ทำให้กำไรขั้นต้นจากการผลิตรวมของกลุ่มไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันปรับตัวลดลง 2.4 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ทำให้ EBITDA ลดลง 156 ล้านบาทจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 4/56 เพิ่มขึ้น 2,235 ล้านบาทเนื่องจากเงินบาทที่อ่อนค่าลงมากในช่วงปลายปี 2556 โดยรวมเครือไทยออยล์จึงมีกำไรสุทธิลดลง 1,939 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 4/55

สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับปี 56 เทียบกับปี 55 เครือไทยออยล์มีรายได้จากการขายปรับลดลงร้อยละ 7 เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์โดยเฉลี่ยปรับลดลงจากอุปสงค์ที่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว นอกจากนี้จากส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์ และ วัตถุดิบของโรงกลั่น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นจากการผลิตรวมของกลุ่มไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันปรับตัวอยู่ที่ 6.8 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลลดลง 0.9 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยมีผลกำไรจากสต็อกน้ำมัน 2,624 ล้านบาทเปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน 2,592 ล้านบาท นอกจากนี้ มีกำไรจากอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยงสุทธิเพิ่มขึ้น 402 ล้านบาท ทำให้ EBITDA เพิ่มขึ้น 2,011 ล้านบาทเป็น 22,361 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เครือไทยออยล์มีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากการออกหุ้นกู้สกุลเหรียญสหรัฐฯ และมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิเพิ่มขึ้น ทำให้มีกำไรสุทธิจำนวน 10,394 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้น 5.09 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับปี 55


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ