อย่างไรก็ตาม เร็ว ๆ นี้บริษัทฯ จะทำการเปิดสาขาที่เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี และสาขาฝั่งธนบุรี เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดรถยนต์มือสองภาคเหนือและประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้บริการประมูลซื้อ-ขายได้กระจายทั่วประเทศ จึงมีแผนจะเปิดสาขาแห่งใหม่ขึ้นที่ภาคอีสานและภาคใต้ รวมทั้งสาขาในภาคกลางที่จะเปิดที่กรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้อรถยนต์มือสอง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ขณะนี้บริษัทได้ประกาศหาที่ดินแปลงใหญ่ขนาดตั้งแต่ 10 ไร่ขึ้นไป ซึ่งจะพัฒนาเป็นสำนักงานบริการ และลานจอดรถยนต์มือสองได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 คัน และรถจักรยานยนต์ไม่ต่ำกว่า 5,000 คัน โดยเลือกทำเลที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองของจังหวัดต่าง ๆ ดังนี้ ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และหาดใหญ่ รวมทั้งที่ดินฝั่งธนบุรี เพื่อเช่าเปิดสาขาแห่งใหม่ของสหการประมูล โดยมีระยะเวลาในการเช่า 10 ปีต่อสัญญา" นายเทพทัย กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทได้เลือกลงทุนเปิดสาขาแห่งใหม่เฉพาะในจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ซึ่งมีศักยภาพในด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจ และเป็นเมืองที่มีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่ทำให้ประชาชนมีรายได้และมีกำลังซื้อสูง นอกจากนี้แล้วสาขาที่จะเปิดใหม่นั้นจะรองรับการประมูลสัญจรในต่างจังหวัดซึ่งในแต่ละเดือนนั้นจัดขึ้นไม่ต่ำกว่า 20 รอบ