KSAM เสนอขายกองทุนตราสารหนี้ 6 เดือน 18-24 ก.พ.ชูผลตอบแทน 3% ต่อปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 17, 2014 14:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี(KSAM)เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M87 (KFFIX6M87) อายุประมาณ 6 เดือน เสนอขายวันที่ 18 - 24 กุมภาพันธ์ 2557 ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท จ่ายผลตอบแทนประมาณ 3.00% ต่อปี

กองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร Union National Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน , สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China (Asia) (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ ECP การันตีโดยธนาคาร Gazprombank (รัสเซีย) สัดส่วนการลงทุน 15% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 9% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 8% และตั๋วแลกเงินออกโดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 8%

ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 3.00% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป

“กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M87(KFFIX6M87) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และต้องการล็อคผลตอบแทน โดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน" นายฉัตรพี กล่าว

สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐฯปรับตัวขึ้นร้อยละ0.02–0.08 โดยเส้นอัตราผลตอบแทนมีลักษณะชันมากขึ้น ในส่วนของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ได้ประกาศลดมุมมองเครดิตของตุรกีลงสู่ “เป็นลบ" เนื่องจากมองว่ามีความเสี่ยงมากขึ้นที่เศรษฐกิจตุรกีจะหดตัวรุนแรง และมีความกังวลถึงความเป็นอิสระและความโปร่งใสของธนาคารกลางมากขึ้น สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลดลงในทุกช่วงอายุ โดยได้แรงหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศ ท่ามกลางสภาพคล่องที่เบาบาง โดยเส้นอัตราผลตอบแทนลดลงร้อยละ 0.01– 0.07


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ