บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น(AMATA) กำไร 4Q56 ออกมาต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดไว้มาก ดิ่งลงถึง 89% y-o-y เป็น 75 ล้านบาท สืบเนื่องจากรายได้จากการขายลดลง 17%, มีการปรับต้นทุนในธุรกิจสาธารณูปโภค จนกลายเป็นขาดทุน และค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเพิ่มถึง 38% อันเป็นผลพวงจากการป้องกันน้ำท่วม ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 100 ล้านบาทใน 4Q56
ด้านกำไรตลอดปี 56 เพิ่มเพียง 1% y-o-y แม้ว่ารายได้เพิ่มดี 28% แต่ค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเพิ่มถึง 36% กำไรตามส่วนได้เสียลดลง 17% อีกทั้งกำไรจากรายการพิเศษก็น้อยลงถึง 61% ด้านงบดุลอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนทรงตัวเป็น 56% ณ ปลายปี 56 พร้อมกันนี้ บริษัทได้ประกาศจ่ายปันผล 0.25 บาท สำหรับผลกำไร 2H56
ดังนั้น คาดว่ากำไรสุทธิปี 57 จะลดลงถึง 23% y-o-y เป็น 1.2 พันล้านบาท สืบเนื่องจากยอดขายที่น้อยลงมากในปี 56 ก่อนหน้า จะกระทบให้รายได้จากการโอนปีนี้น้อยลงตามมา
แรงกระตุ้นราคาหุ้นปี 57 คือ การขายโรงงานสำเร็จรูปไปยัง REIT จากบริษัทร่วมคือ อมตะ ซัมมิท เรดดี บิวท์ (ASRB) ซึ่ง AMATA ถือหุ้นอยู่ 49% โดยมีแผนที่จะขาย 76 โรงงานที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและกำลังก่อสร้างอีก 12 โรงงาน มูลค่าตลาดที่ขายเป็นประมาณ 4.75 พันล้านบาท ขณะที่มูลค่าทางบัญชีเป็น 2.9 พันล้านบาท จึงมีกำไรที่ดี
อย่างไรก็ดี คงคำแนะนำ "ซื้อ" แม้ผลการดำเนินงานไม่สดใสนัก แต่ราคาปิดตอนนี้ถือว่าต่ำกว่า มูลค่าสินทรัพย์ต่อหุ้น (RNAV) ที่ 20.00 บาท ค่อนข้างมากแล้ว ส่วนราคาพื้นฐานใหม่ปรับลดลงเป็น 16.00 บาท