สำหรับในไตรมาสแรกปี 2557 ธนาคารได้เปิดตัวบัตรเดบิตเฮลโล คิตตี้ (Hello Kitty) ซึ่งเป็นบัตรเดบิตลายคาแรคเตอร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการเปิดตัวเมื่อ 2 ปีก่อน และได้รับการเรียกร้องจากลูกค้าให้ออกบัตรลายใหม่มาโดยตลอด ธนาคารจึงถือโอกาสที่เฮลโล คิตตี้ ฉลองครบรอบ 40 ปี ออกบัตรเดบิตเฮลโล คิตตี้ 3 ลาย คือ ลาย “เฮลโล คิตตี้ ลิมิเต็ด เอดิชั่น" ที่ทางบริษัท ซานริโอ (Sanrio) ออกแบบลายขึ้นมาใหม่เป็นลายที่ใช้สำหรับธนาคารกสิกรไทยแห่งเดียวเท่านั้น กับลายบัตรสีชมพูหวาน โดดเด่นด้วยเฮลโล คิตตี้ สีดำสวยหรูด้วยความแวววาวของลายคริสตัล พร้อมรับเซ็ทกระเป๋าเดินทางเฮลโล คิตตี้ สมุดบัญชี และซองพลาสติกอเนกประสงค์ลายเดียวกัน จำหน่ายในราคาชุดละ 2,000 บาท
ส่วนอีกสองลาย เป็นบัตร K-My Debit ลายเฮลโล คิตตี้ควงคู่มากับดาเนียล และ K-Max Debit Card พ่วงประกันที่สวยโดดเด่นด้วยเฮลโล คิตตี้ กับผลเชอรี่แดง พิเศษกับทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต “เฮลโล คิตตี้" รับกระเป๋าเฮลโล คิตตี้รูปแบบต่าง ๆ ตามมูลค่าการใช้จ่าย ตั้งแต่ 1 มี.ค. 57-30 มิ.ย. 57 โดยธนาคารตั้งเป้าการออกบัตร Hello Kitty ในปีนี้ที่ 500,000 ใบ
ในตลาดปัจจุบันมีผู้ใช้บัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตรวมประมาณ 57ล้านใบ แยกเป็นบัตรเอทีเอ็มประมาณ 15 ล้านใบและบัตรเดบิตประมาณ 42 ล้านใบมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตในประเทศในปี 2556 อยู่ที่ประมาณ 98,000 ล้านบาท โดยธนาคารกสิกรไทยมีมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตอยู่ที่ 33,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 34% ถือเป็นอันดับที่ 1 ในตลาด
นายปกรณ์ กล่าวว่า ธนาคารยังคงกำหนดกลยุทธ์บัตรเดบิตกสิกรไทยในรูปแบบ “ยูนิเวอร์แซล เดบิต การ์ด" (Universal Debit Card) คือใช้บัตรเดบิตเพียงบัตรเดียวได้ในทุกที่และทุกเรื่อง โดยเน้นคุณสมบัติของบัตร (Functional Benefits) ที่สามารถใช้ได้ที่ตู้เอทีเอ็ม การใช้จ่ายผ่านร้านค้า ร้านค้าออนไลน์หรือเว็บไซต์ พร้อมกระตุ้นการใช้จ่ายด้วยโปรโมชั่นด้านไลฟ์สไตล์ และเน้นการสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ (Emotional Benefits) เพื่อดึงดูดใจลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งการแนะนำบัตรลายคาแรคเตอร์อย่างต่อเนื่อง จะเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างกระแสความต้องการอย่างต่อเนื่อง