บริษัทตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อให้เพิ่มขึ้นทะลุ 1 พันล้านบาทในปีนี้ จากปีก่อนที่อย่ในระดับ 900 ล้านบาท ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ก็จะรักษาไว้ในระดับประมาณ 6% ใกล้เคียง ณ สิ้นปี 56 ที่เพิ่มขึ้นจาก 5% ในสิ้นปี 55 โดยบริษัทได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสะสมไว้ถึง 8% ซึ่งเกินกว่ายอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
พร้อมกันนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการปล่อยสินเชื่อรถตัดอ้อยและรถหีบปาล์ม จากปัจจุบันมีเพียงปล่อยสินเชื่อเฉพาะรถเกี่ยวข้าวเท่านั้น และยังศึกษาการให้บริการทางการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับชาวนา เช่น สินเชื่อน้ำมันเพื่อชาวนา โดยจะพิจารณาจากลูกค้าที่มีการผ่อนชำระดี ไม่มียอดหนี้ค้างชำระ ซึ่งจะมีลูกค้ากลุ่มนี้ประมาณ 200 กว่าราย คาดว่าจะอนุมัติวงเงินให้รายละ 1-2 แสนบาท คิดดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี ซึ่งรอการอนุมัติโครงการดังกล่าวจากคณะกรรมการบริหารในเร็วๆนี้
ส่วนโครงการจำนำข้าวที่จ่ายเงินล่าช้านั้น น่าจะเป็นปัญหาชั่วคราว และไม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับบริษัท หากแต่เป็นผลกระทบทางอ้อม เนื่องจากบริษัทไม่ได้ให้สินเชื่อโดยตรงแก่ชาวนาที่ปลูกข้าวเพียงอย่างเดียว แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้หลายทาง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงชำระเงินเข้ามาตามปกติ ขณะที่ผลกระทบทางอ้อมคือสินเชื่อที่ปล่อยให้กับผู้ประกอบอาชีพรับจ้างเกี่ยวข้าวไม่มีเงินทางผ่อนชำระหนี้ แต่ยังอยู่ในปริมาณที่ไม่มากนัก ซึ่งหากมีผู้ที่ผิดชำระหนี้เกิน 3 งวด บริษัทฯจะเข้าไปพูดคุยสอบถามปัญหาและรับฟังความเห็นเพื่อหาทางออกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทได้ติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิดมากขึ้น แต่โดยรวมแล้วสถานการณ์ยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้และเชื่อว่าภาพรวมสถานการณ์จะคลี่คลายไปได้ด้วยดีในครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ