(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าการเมืองกดดันแต่ไม่แรง sentiment ต่างประเทศบวกช่วยพยุง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 21, 2014 09:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดปรับลงเล็กน้อยลักษณะของการเมืองที่ยังมีแรงกดดันต่อเนื่อง แต่คงไม่แรงมากแล้วเพราะได้ sentiment ของตลาดต่างประเทศที่บวกเป็นตัวช่วยพยุงได้บ้าง เมื่อวาน 3 กลุ่มนักลงทุนที่ขายสุทธิเป็นนักลงทุนต่างชาติ กองทุนในประเทศ และพอร์ตโบรกฯ อาจเห็นแรงกดดันให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อได้ และวันนี้เป็นวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์อาจมีการลดพอร์ต

ทั้งนี้ ตลาดต่างประเทศฟื้นตัวจากตัวเลขในภาคการผลิตสหรัฐออกมาค่อนข้างดีส่ง sentiment ให้ดาวน์โจนส์เป็นบวก และตลาดในภูมิภาคเมื่อวานปรับลงค่อนข้างแรงไปแล้ว เมื่อมีข่าวดีเรื่องนี้เข้ามาเป็นแรงเสริมให้เกิดการรีบาวด์

"บ้านเราต้องติดตามการชุมนุม ที่จะมีการยกระดับต่างๆ ว่าจะมีอิมแพ็คอะไรเข้ามาบ้าง และการเคลื่อนไหวของแต่ละกลุ่ม ส่วนหุ้นกลุ่มชินเป็น sentiment เพราะโดยปัจจัยพื้นฐานไม่ได้มี impact อะไรหรือไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรในแง่ปัจจัยพื้นฐาน"นายเทิดศักดิ์ กล่าว

กรอบแนวรับ 1,280 จุด แนวต้าน 1,310 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(20 ก.พ.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,133.23 จุด เพิ่มขึ้น 92.67 จุด (+0.58%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,839.78 จุด เพิ่มขึ้น 11.03 จุด (+0.60%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,267.55 จุด เพิ่มขึ้น 29.60 จุด หรือ (+0.70%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 169.43 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 223.55 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 46.67 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 17.46 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 16.60 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.37 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(20 ก.พ.)ที่ 1,303.98 จุด ลดลง 17.02 จุด(-1.29%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,755.48 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20ก.พ.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(20 ก.พ.)ที่ 102.92 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 39 เซนต์
  • เงินบาทเปิด 32.55/57 แข็งค่าสวนทางภูมิภาค เกาะติดม็อบชาวนา-เงินไหลเข้า
  • ธ.ก.ส.รับมีแผนออกพันธบัตรขายรายย่อยช่วย ชาวนาในโครงการจำนำข้าว โดยคลังต้องค้ำประกัน ส่วนเงินกู้ 5 พันล้านบาทคืนออมสินแล้ว ขณะที่คลังแย้มแผนออกบอนด์รายย่อยวงเงิน 1 แสนล้านบาท อายุสั้นแค่ 6 เดือนถึง 1 ปี ดอกเบี้ย 2.75-3% ด้าน "ทนุศักดิ์" นัดบอร์ด ธ.ก.ส.ถกหาช่องช่วยชาวนาจันทร์นี้ ส่วนวันที่ 4 มี.ค.ยังไม่ชัดหาแหล่งเงินให้ ธ.ก.ส.จ่ายหนี้ชาวนาได้หรือไม่
  • เครือข่ายชาวนาหลายจังหวัดถึงกรุงเทพฯแล้ว ประกาศพร้อมอยู่ยาวจนกว่าจะได้ เงินจำนำข้าว ด้านนายกฯเตรียมหารือ ตัวแทน ขณะศาลปกครองรับคดี ชาวนาฟ้องพาณิชย์แล้ว
  • แบงก์ชาติไม่ห่วงเงินทุนไหลออกหลังเฟดหั่นคิวอี เชื่อเศรษฐกิจปีนี้โต 3% แต่กังวลสถานการณ์การเมือง อาจฉุดการบริโภคและการลงทุน ทำให้มีโอกาสที่ดอกเบี้ยอาจปรับลดลงเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ขณะที่ "ผ่องเพ็ญ" เตือนต้นทุนการกู้เงินเพิ่มจากผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจที่ ไม่สดใส ปมขัดแย้งทางการเมืองที่ไร้ข้อยุติ
  • ค่ายรถยนต์ แจงแผนรับมือสถานการณ์การเมือง-เศรษฐกิจล่วงหน้า เน้นสร้างสมดุลขายในประเทศ-ส่งออก ประเมินตลาดระยะสั้น อัดแคมเปญช่วงตลาดซึม เร่งเปิดตัวรถใหม่-ปรับโฉม ผลักดันกำลังซื้อ ด้านกลุ่มอุตฯยานยนต์ เผยเดือนม.ค.ผลิตรถร่วง 31% ยอดขายต่ำสุดรอบ 25 เดือน เหตุส่วนหนึ่งไม่มีการส่งมอบรถคันแรก ด้านดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯ ร่วงลงติดต่อกัน 55 เดือน สะท้อนการเมืองฉุดเชื่อมั่น

*หุ้นเด่นวันนี้

  • INTUCH(เมย์แบงก์กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 125.00 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลง -3.4% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา จากความกังวลกลุ่มเรียกร้องให้ต่อต้านสินค้าที่มีภาพลักษณ์เกี่ยวข้องกับการเมืองผลกระทบบริษัทลูก เช่น ADVANC, THCOM และ CSL แต่เชื่อเป็นปัจจัยลบช่วงสั้น เพราะโครงสร้างผู้ถือหุ้นปัจจุบันไม่ได้มีผู้ที่เป็นจุดเสี่ยงจากการเมือง ดังนั้น การปรับตัวลงของราคาหุ้นเป็นโอกาสทยอยสะสมสำหรับนักลงทุนระยะยาว จากจุดเด่นที่ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึงปีละ 7-8%
  • BJCHI (เคจีไอฯ)"ซื้อ"เป้า 51 บาท คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเด่น(คาดจะทำนิวไฮต่อเนื่องในปี 57-58)ราคาหุ้นยังอยู่ใน Uptrend คาดมีโอกาสผ่านแนวต้านจุดสูงสุดเดิมที่ 42 บาท Valuation ยังไม่แพงด้วย PE ~9.8 เท่า Dividend yield ~6% คาดประกาศปันผล 2.5 บาท
  • MINT(ฟินันเซียไซรัส)"ซื้อ"เป้า31บาท กำไรปกติ 4Q13 แกร่งกว่าคาด +120% Q-Q, +31% Y-Y ธุรกิจโรงแรมยังเติบโตได้ เพราะรายได้ของโรงแรมในกรุงเทพคิดเป็นเพียง 7% และมีการกระจายธุรกิจไปต่างประเทศค่อนข้างมาก แนวโน้ม 1Q14 น่าจะโตได้สวนทางคู่แข่ง ปรับกำไรปกติขึ้น 3% MINT ยังเป็น Top pick ของกลุ่ม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ