บริษัทฯ มีแผนเข้าประมูลงานเพิ่มต่อเนื่อง ทั้งจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มูลค่าประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้งานประมาณ 10% หรือคิดเป็นมูลค่า 800 ล้านบาท และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้งานประมาณ 1,500 ล้านบาท รวมทั้งเข้าประมูลงานภาคเอกชน คาดว่าจะได้งานประมาณ 500 ล้านบาท และโครงการพลังงานลม คาดว่าจะได้งานประมาณ 600-700 ล้านบาท
“บริษัทยังคงเน้นการรักษาฐานลูกค้าทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่เป็นตลาดหลัก โดยจะเข้าประมูลงานวิศวกรรมไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กลุ่มผู้ประกอบการ IPP –SPP ในวงเงินไม่น้อยกว่า 15,000 ล้านบาท ส่วนงานพลังงานทดแทนก็จะเข้าประมูลงานโครงการพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) และโครงการโซล่าชุมชน ในวงเงินไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท“นายพงษ์ศักดิ์ ระบุ
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า Backlog ดังกล่าวยังไม่รวมถึงงานอื่นๆ เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ และงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะได้รับงานอีก 300-500 ล้านบาท ทำให้ปีนี้จะมีการเติบโตขึ้นของรายได้ที่ 10% จากปี 56 ที่คาดว่าจะทำได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 6,000 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจัยด้านการเมืองได้ส่งผลต่องานภาคเอกชน โดยเฉพาะการลงทุนของเอกชนรายย่อย คิดเป็นสัดส่วน 5-10% ส่วนลูกค้าหลักคือการไฟฟ้า โครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ (IPP) ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และผู้ลงทุนพลังงานทดแทนรายใหญ่ ยังสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย