(เพิ่มเติม) IVL คาดปี 57 รายได้โต 17% ตามกำลังผลิตเพิ่ม เล็ง M&A ในตอ.กลาง-แอฟริกา

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 24, 2014 12:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์(IVL)คาดว่ารายได้ในปี 57 จะเติบโต 17% มาที่ 8.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 7.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนราว 300-400 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อปรับปรุงการผลิตและขยายกำลังการผลิต คาดว่ากำลังผลิตจะเพิ่มเป็น 6.6 ล้านตัน จากปีก่อน 5.8 ล้านตัน ซึ่งงบลงทุนดังกล่าวไม่รวมการซื้อกิจการเพิ่มเติมในปีนี้ที่าบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการใหม่ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเพิ่มเติม หากประสบความสำเร็จคาดว่าจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเข้ามาอีกราว 1.4 แสนตัน/ปี

นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IVL เปิดเผยว่า ในปี 57 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 17% หรือ 8.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากปีก่อนมีรายรวมอยู่ที่ 7.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยปริมาณการผลิตคาดว่าจะเติบโตเป็น 6.6 พันล้านตัน จากปี 55 มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 5.8 พันล้านตัน เนื่องจากปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นของโรงงานการผลิต Oxide & Glycols และเพิ่มอัตรากำลังการผลิตในโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET ที่มณฑลกวางตุ้ง รวมถึงการเริ่มดำเนินงานของโรงงานเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ CP4 ในประเทศอินโดนีเซีย ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตใหม่เข้ามาอีก 7 แสนตัน ประกอบกับเพิ่มกำลังการผลิตของ PHP Fiber GmbH (PHP) เป็น 2.5 แสนหมื่นตันในช่วงไตรมาส 3/57 ซึ่งจะมีรายได้เข้ามา 320 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปีนี้ตั้งงบลงทุนสำหรับการขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงโรงงาน จำนวน 300-400 ล้านเหรียญสหรัฐ

"เราค่อนข้างมั่นใจกับ volumn growth จากที่เราจะปรับปรุง PET ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มกำลังการผลิต CP4 อีก 7 แสนตัน ประกอบกับ ตัวพาราไซลิน มีราคาต่ำลงจึงมีข้อได้เปรียบในการผลิต PET มากขึ้น ส่วนปีนี้เราก็มองหาการลงทุนใหม่ๆ จากที่ได้มีการควบรวมกิจการ PHP ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้มูลค่าเพิ่มสูง มองว่ามีการเติบโตที่ดีมากอย่างไรก็ตามคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตสูงขึ้นอีกด้วยจากปริมาณกำลังการผลิตเพิ่ม"นายอากาวาล กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเข้าซื้อกิจการในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ประเภทธุรกิจ PET และธุรกิจไฟเบอร์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งจะมีกำลังการผลิตเพิ่มเข้ามา 430,000 ตัน โดยใช้แหล่งเงินกู้จากธนาคารและกระแสเงินสดของบริษัท

นายอากาวาล กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีนี้เติบโตไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งสหรัฐที่คาดว่าจะเติบโต 3% ยุโรปเริ่มคงที่ และจีนน่าจะเติบโต 7% โดยประเมินว่าตลาดใหม่น่าจะมีความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังคงผันผวน แต่บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนมากนัก เนื่องจากบริษัทมีการดำเนินธุรกิจไปทั่วโลก จึงไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจซบเซาในประเทศ เนื่องจากภาพรวมในตลาดโลกยังมีความต้องการสินค้า บริษัทจึงยังมองในเชิงบวกสำหรับปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ