นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IVL เปิดเผยว่า ในปี 57 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 17% หรือ 8.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากปีก่อนมีรายรวมอยู่ที่ 7.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยปริมาณการผลิตคาดว่าจะเติบโตเป็น 6.6 พันล้านตัน จากปี 55 มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 5.8 พันล้านตัน เนื่องจากปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นของโรงงานการผลิต Oxide & Glycols และเพิ่มอัตรากำลังการผลิตในโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET ที่มณฑลกวางตุ้ง รวมถึงการเริ่มดำเนินงานของโรงงานเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ CP4 ในประเทศอินโดนีเซีย ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตใหม่เข้ามาอีก 7 แสนตัน ประกอบกับเพิ่มกำลังการผลิตของ PHP Fiber GmbH (PHP) เป็น 2.5 แสนหมื่นตันในช่วงไตรมาส 3/57 ซึ่งจะมีรายได้เข้ามา 320 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปีนี้ตั้งงบลงทุนสำหรับการขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงโรงงาน จำนวน 300-400 ล้านเหรียญสหรัฐ
"เราค่อนข้างมั่นใจกับ volumn growth จากที่เราจะปรับปรุง PET ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มกำลังการผลิต CP4 อีก 7 แสนตัน ประกอบกับ ตัวพาราไซลิน มีราคาต่ำลงจึงมีข้อได้เปรียบในการผลิต PET มากขึ้น ส่วนปีนี้เราก็มองหาการลงทุนใหม่ๆ จากที่ได้มีการควบรวมกิจการ PHP ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้มูลค่าเพิ่มสูง มองว่ามีการเติบโตที่ดีมากอย่างไรก็ตามคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตสูงขึ้นอีกด้วยจากปริมาณกำลังการผลิตเพิ่ม"นายอากาวาล กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเข้าซื้อกิจการในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ประเภทธุรกิจ PET และธุรกิจไฟเบอร์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งจะมีกำลังการผลิตเพิ่มเข้ามา 430,000 ตัน โดยใช้แหล่งเงินกู้จากธนาคารและกระแสเงินสดของบริษัท
นายอากาวาล กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีนี้เติบโตไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งสหรัฐที่คาดว่าจะเติบโต 3% ยุโรปเริ่มคงที่ และจีนน่าจะเติบโต 7% โดยประเมินว่าตลาดใหม่น่าจะมีความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังคงผันผวน แต่บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนมากนัก เนื่องจากบริษัทมีการดำเนินธุรกิจไปทั่วโลก จึงไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจซบเซาในประเทศ เนื่องจากภาพรวมในตลาดโลกยังมีความต้องการสินค้า บริษัทจึงยังมองในเชิงบวกสำหรับปีนี้