ขณะที่ capacity ในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 30% มาจากบริษัทได้รับมอบเครื่องบินประจำการใหม่เพิ่มอีก 8 ลำ โดยในเดือนม.ค.-ก.พ.นี้รับมอบเครื่องบินใหม่ไปแล้ว 2 ลำ และอีก 6 ลำจะทยอยรับมอบในไตรมาส 3-4/57 จะทำให้ ณ สิ้นปี 57 บริษัทมีเครื่องบินในฝูงบินทั้งสิ้น 46 ลำ
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดเส้นทางการบินในประเทศจีนเพิ่มอีก 2-3 เส้นทาง ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจายังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ อย่างไรก็ตามบริษัทฯจะเน้นการเปิดเส้นทางการบินในต่างจังหวัดไปยังภูมิภาคต่าง ๆ มากขึ้น เช่น เชียงใหม่-จีน โดยปัจจุบันมีสัดส่วนของ capacity ดังกล่าว 10% และจะเพิ่มเป็น 30% ภายใน 2-3 ปีนี้
นอกจากนั้น AAV ยังตั้งเป้าในการเชื่อมต่อการเดินทางกับสายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ซึ่งเป็นสายการบินราคาประหยัดที่ให้บริการเส้นทางระยะไกล ซึ่งจะเปิดตัวภายในปีนี้ เชื่อว่าจะเป็นอีกมิติใหม่ของคนไทยในการเดินทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ซึ่งสายการบินไทย แอร์ เอเชียเอ็กซ์ กำลังรอดูสถานการณ์การเมืองให้มีความสงบมากกว่านี้ แต่มั่นใจสามารถเปิดทันปีนี้อย่างแน่นอน
นายทัศพล กล่าวว่า บริษัทยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองพอสมควร เห็นได้จากในช่วงไตรมาสแรกที่เป็นช่วงไฮซีซั่น load factor ลดลงมาอยู่ที่ 84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 56 อยู่ที่ 86% อย่างไรก็ตาม load factor ในเส้นทางไปยังจังหวัดท่องเที่ยวยังอยู่ในระดับ 80-90% เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ และ สุราษฎธานี ฯลฯ ซึ่งผู้โดยสารกลุ่มนี้เป็นนักท่องเที่ยวที่เคยมาเที่ยวประเทศไทยแล้วและมีการปรับตัวได้ดีต่อสถานการณ์
ส่วนหุ้น AAV บริษัทยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเมือง แม้ในอดีตกลุ่มชินวัตรจะเคยเข้าซื้อหุ้นเมื่อ 7 ปีมาแล้ว แต่ขณะนี้สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นได้ และผู้ถือหุ้นอื่นๆ ก็เป็นกองทุนที่น่าเชื่อถือทั้งในและต่างประเทศ
"การเมืองก็มีผลกระทบ แต่เราสามารถเอาอยู่ เพราะเรามีการจัดโปรโมชั่นต่างๆ ขณะที่เรามีความกังวลต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันที่มีความผันผวนมากกว่า มองว่าการเมืองไม่ใช่ความเสี่ยง"นายทัศพล กล่าว