ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 421,431 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 24, 2014 16:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (17 – 21 กุมภาพันธ์ 2557) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ในสัปดาห์นี้ มีมูลค่ารวม 421,431 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 84,286 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 25% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้วจะพบว่ากว่า 62% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 262,574 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (State Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 109,222 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 10,954 ล้านบาท หรือคิดเป็น 26% และ 3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB196A (อายุ 5.3 ปี) LB176A (อายุ 3.3 ปี) และ LB155A (อายุ 1.2 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 30,952 ล้านบาท 26,372 ล้านบาท และ 11,011 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนพันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือรุ่น CB14311A (อายุ 14 วัน) CB14522B (อายุ 91 วัน) และ CB14410A (อายุ 48 วัน) มูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 34,209 ล้านบาท 32,582 ล้านบาท และ 15,238 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รุ่น PTTC15NA (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 877 ล้านบาท หุ้นกู้ของธนาคาร เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) รุ่น KK144A (A-) มูลค่าการซื้อขาย 705 ล้านบาท และหุ้นกู้ของธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) รุ่น BAY152B (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 565 ล้านบาท

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวลดลงตลอดทั้งเส้น ในช่วงประมาณ -1 ถึง -7 Basis Point (100 Basis point มีค่าเท่ากับ 1%) เนื่องจากนักลงทุนในตลาดคาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย (RP 1 Day) ลงในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 12 มี.ค. 57 นี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่องจากสิ้นปี 2556 ภายหลังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของไตรมาส 4/56 ว่าขยายตัวเพียง 0.6% ขณะที่เศรษฐกิจตลอดทั้งปี 56 ขยายตัวเท่ากับ 2.9% ซึ่งต่ำกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ พร้อมกันนี้ สศช. ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 57 เหลือเพียง 3 – 4% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 4 – 5% เนื่องจากความล่าช้าของการดำเนินการตามแผนการลงทุนของภาครัฐ และการบริโภคภายในประเทศที่ยังคงชะลอตัว นอกจากนี้แล้วการประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลไทย โดย Moody’s ที่ระดับ Baa1 พร้อมให้แนวโน้มมีเสถียรภาพ เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนต่างชาติมากขึ้น ส่งผลให้มีเม็ดเงินต่างชาติไหลกลับเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้อีกครั้งโดยเฉพาะในตราสารหนี้ระยะยาว และมีส่วนทำให้อัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ตาม จากรายงานผลการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดที่ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดขนาดของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในช่วงถัดไป อาจกดดันให้กระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดเกิดใหม่รวมถึงประเทศไทยได้อีก ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

ในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติมียอด ซื้อสุทธิ ในตราสารหนี้ทุกประเภท (ทั้งระยะสั้น และระยะยาว) รวมกัน 886 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว 2,491 ล้านบาท และ ขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือน้อยกว่า 1 ปี) 1,605 ล้านบาท ทางด้านนักลงทุนรายย่อยมียอดขายสุทธิ 238 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ