ทั้งนี้ มองภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปี 57 จะเติบโตราว 5% ชะลอลงจากปี 56 ที่เติบโตราว 9%
"ภาพรวมค้าปลีกสู้ปี 56 ไม่ได้ หรือมองแค่ทรงตัว ครึ่งหลังจะดีจากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจโลก ส่วนการเมืองน่าจะหาทางออกได้ข้อยุติเร็วๆ นี้"นายสุวิทย์ กล่าว
สำหรับภาพรวมกำลังซื้อของประชาชนมีปัจจัยลบอยู่ คือความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดน้อยลง เศรษฐกิจในประเทศไม่ดี ชาวนาไม่มีรายได้จากการขายข้าว และราคาพืชผลเกษตรอื่นๆก็ตกต่ำ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวก คือ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกเริ่มดีขึ้นทั้งสหรัฐ และยุโรป จะเห็นได้ว่าในเดือนม.ค.ตัวเลขส่งออกของไทยขยายตัวขึ้น ขณะที่ราคาพืชผลเกษตร อย่าง ปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 5 บาท/ก.ก.จาก 2-3 บาท/ก.ก. อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ราว 2% เศษถือว่าไม่สูง ซึ่งช่วยประคองเศรษฐกิจไม่ให้เดินไปอย่างลำบาก
ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนั้น นักวิเคราะห์มองแนวโน้มปรับลง แต่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) รวมทั้งราคาน้ำมันยังไม่เปลี่ยนแปลง
"ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ คาดเศรษฐกิจในไตรมาส 1-2 อาจไม่ดีนัก แต่จะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 3-4"นายสุวิทย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมองว่าธุรกิจค้าปลีกสินค้าประเภทอาหารยังน่าจะเติบโตในระดับปกติ ส่วนสินค้าฟุ่มเฟือยหรือสินค้าคงทน น่าจะชะลอการซื้อลง เพราะอารมณ์ของผู้บริโภคขณะนี้ไม่อยากจะจับจ่ายใช้สอย แต่หากสถานการณ์กลับมาปกติ ก็เชื่อว่ากำลังซื้อจะพุ่งขึ้น
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร CPALL กล่าวว่า ปี 57 บริษัทยังเดินหน้านโยบายเน้นงาน CSR "ส่งเสริมการศึกษา พัฒนาเยาวชน"หลายรูปแบบ ผ่านวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ เตรียมให้ทุนการศึกษาอีกกว่า 800 ล้านบาทในปีนี้
ปัจจุบัน CPALL รวม MAKRO มีพนักงาน 130,000 คน ลูกค้าเข้าร้านวันละ 10 ล้านคน นโยบายของ CPALL ไม่ใช่แค่ผลิตบุคลากรให้เครือ CPALL เท่านั้น แต่จะผลิตให้หลายวงการ ทั้งอสังหาริมทรัพย์ พัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้าง อยากจะสนับสนุนให้องค์กรใหญ่ ส่งเสริมการศึกษา โดยขณะนี้ได้หารือกับ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ให้แต่ละองค์กรสร้างองค์ความรู้ขึ้นมา เช่น CPF ก็สนับสนุนความรู้ด้านสัตว์บกและสัตว์น้ำ ส่วน TRUE อาจจะสนับสนุนความรู้ด้านเทคโยโลยีไอที เพื่อสร้างบุคลากรในแต่ละองค์ความรู้ คาดว่าความร่วมมือดังกล่าวจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้