นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ประธานกรรมการ SAMTEL กล่าวว่า การร่วมทุนครั้งนี้เกิดจากวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกันของทั้ง 3 บริษัทในการขยายธุรกิจสู่ร่างประเทศโดยเฉพาะประเทศ CLMV คือกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม โดยทางกลุ่มมีความมั่นใจในความชำนาญด้านไอซีที และความชำนาญเชิงลึกในงานโครงการ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เช่น การวางระบบเครือข่ายสื่อสาร การบริหารจัดการระบบข้อมูลสารสนเทศการออกแบบติดตั้งระบบการรักษาความมั่นคงปลอดภัย การให้บริการคอลล์เซ็นเตอร์ เป็นต้น
ด้านนายสุรกิจ เกียรติธนาคาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SLA Asia Company Limited กล่าวว่า บริษัทเห็นโอกาสในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ พม่า ที่เพิ่งเปิดประเทศ และปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง โดยปัจจุบันกลุ่มเทเลนอร์และโอเลดูได้สิทธิในการวางโครงข่ายและให้บริการโทรศัพท์มือถือในพม่า ซึ่งปีนี้จะต้องครอบคลุม 25%ของพื้นที่ จุดนี้บริษัทได้ติดต่อเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นในการขอเข้าร่วมงานด้วย คาดว่าจะได้ย้อสรุปเร็วๆนี้และเริ่มงานได้ในเดือนเม.ย.นี้ นอกจากนี้ ยังมีงานวางระบบ e-Gornvernment ที่บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยรายได้มากกว่าครึ่งหนึ่งจะอยูในพม่า
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยอมรับว่าการทำธุรกิจในพม่ายังมีอุปสรรคเกี่ยวกับกฎหมายการลงทุน และความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนมาก
"เรามองเห็นโอกาสในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งพม่า กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ซึ่งกกลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศเพื่อรองรับเงินทุนที่ไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว"
ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายไว้ 2 ระยะ คือ ระยะสั้น จับมือกับพันธมิตรท้องถิ่นเน้นการขายและติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ การสื่อสารโทรคมนาคมครบวงจร พร้อมบริการหลังการขายให้แก่กลุ่มธุรกิจที่เข้าไปลงทุนในประเทศดังกล่าว ส่วนแผนระยะยาว คือการนำเสนอโครงการแก่ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจในแต่ละประเทศ ซึ่งเบื้องต้นบริษัทกำลังศึกษาโครงการของกรมที่ดินในประเทศลาว และโครงการจัดทำบัตรประชาชน smart ID Card ในพม่า