พร้อมนำทัพธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแห่งแรกในภาคอีสานพร้อม Anchor หลักครบครัน และร้านค้าในศูนย์อีก 400 ร้านค้าเพื่อรองรับกำลังซื้อมหาศาลในจังหวัดศูนย์กลางเกตเวย์แห่งอีสานที่จะโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต
"ในปีนี้เราคงเดินหน้าลงทุนขยายธุรกิจสร้างความเติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง CPN เล็งเห็นความสำคัญของภาคอีสานและได้เข้าไปปักธงธุรกิจในทุกยุทธศาสตร์สำคัญ"น.ส.วัลยา กล่าว
เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา จะเริ่มก่อสร้างในเดือน พ.ค. 57 และมีกำหนดเปิดให้บริการต้นปี 59 และเมื่อเปิดให้บริการคาดว่าจะมี Traffic วันธรรมดาประมาณ 50,000-60,000 คน เสาร์-อาทิตย์ 70,000-80,000 คน
ทั้งนี้ เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา ถือเป็นแห่งที่ 4 ในภาคอีสานและมองว่ามีกลุ่มเป้าหมายกำลังซื้อสูงอยู่มากรวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง โดยจะครอบคลุมกลุ่มลูกค้าในรัศมี 120 กิโลเมตร ใน 3 จังหวัด คือนครราชสีมา บุรีรัมย์ และชัยภูมิ กว่า 3.4 ล้านคน และนักท่องเที่ยวกว่า 5 ล้านคนต่อปี โดยกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่ม B+ ขึ้นไป โดยก่อนหน้าบริษัทได้ขยายสาขาที่อุบลราชธานี อุดรธานี และขอนแก่น
น.ส.วัลยา กล่าวว่า ในปีนี้ ตั้งงบลงทุนจำนวน 1.2-1.4 หมื่นล้านบาท เป็นงบลงทุนที่ใช้ในโครงการต่อเนื่อง และส่วนหนึ่งใช้ในโครงการใหม่ที่ยังประกาศไม่ได้ โดยในปีนี้บริษัทจะเปิดศูนย์การค้า 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์เซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย จะเปิดให้บริการ 29 มี.ค.57 และ ศูนย์เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา เปิดให้บริการ 15 ส.ค. 57 จะทำให้สิ้นปี 57 CPN มีจำนวนศูนย์การค้ารวม 25 แห่ง โดยอยู่ในกรุงเทพ 10 แห่ง ส่วนอีก 3 แห่งยังอยู่ระหว่งการก่อสร้ง
"เรามีความมั่นใจในการลงทุนต่อเนื่องในประเทศไทย ส่วนสาขานครราชสีมาเป็นศูนย์การค้าโครงการที่ 28 ของเรา"น.ส.วัลยา กล่าว
นอกจากนี้ CPN ยังมองหาการลงทุนในต่างประเทศได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยเป็นทิศทางเดียวกับกลุ่มเซ็นทรัล โดยหากบริษัทใดมีความพร้อมก็สามารถเข้าลงทุนได้ก่อน เพราะมองว่าเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) จะทำให้ตลาดใหญ่ขึ้น โดย CPN ได้เข้าร่วมทุนโครงการศูนย์การค้าในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่ประเทศมาเลเซีย ชื่อเซ็นทรัลพลาซา ไอ ซิตี้ โดย CPN เข้าถือหุ้น 70% โดยคาดว่าอีก 3 ปีจะเปิดให้บริการ หรือปลายปี 59 ส่วนในอินโดนีเซียและเวียดนามอยู่ระหว่างทำการศึกษา
น.ส.วัลยา กล่าวว่า บริษัทยังคงรายได้ในปีนี้จะเติบโต 15% จากปีก่อน โดยมองว่าธุรกิจค้าปลีกปัจจุบันได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองราว 1-2% และมองเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม มี Traffic ในศูนย์การค้าที่ใกล้สถานที่ชุมนุมได้รับผลกระทบมาก โดยเฉพาะในเซ็นทรัลเวิล์ด์ เพราะการเข้าออกไม่สะดวก ทั้งนี้ ศูนย์เซ็นทรัลเวิลด์ได้รับผลกระทบจากลูกค้าที่เป็นต่างชาติซึ่งมีสัดส่วน 40% ของ Traffic หายไป
นอกจากนี้ CPN เตรียมเจรจากับร้านในศูนย์เซ็นทรัลเวิลด์ที่มีอยู่กว่า 500 ร้านค้าในการให้ส่วนลดค่าเช่า จากการได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง โดยเปรียบเทียบกับเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 53 ทางศูนย์เซ็นทรัลเวิลด์ได้หยุดไป 7 เดือน และได้ลดค่าเช่าสูงสุด 30% และค่อยๆปรับลงเหลือ 8% โดยใช้เวลาประมาณ 1 ปีกว่า จึงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ