สำหรับรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ต่างประเทศปีนี้ตั้งเป้าราว 5-10 ล้านบาท ถือว่าน้อยเพราะเป็นปีแรก โดยตั้งเป้ามีมูลค่าซื้อขาย 100-200 ล้านบาท/เดือน จากปัจจุบัน(สิ้น 15 ก.พ.) เกิน 10 ล้านบาท เทียบกับธ.ค.56 ที่เพิ่งเปิดมีเพียง 1 ล้านบาทต่อเดือน โดยบัญชีลูกค้า 60-70 บัญชี แอคทีฟ 25% โดยตั้งเป้าใน 3 ปี มาร์เก็ตแชร์ติด TOP3
"ช่วงสั้นเน้นเปิดตัวโปรดักส์ ส่วนเป้าสัดส่วนรายได้ก็เป็นโอกาสในระยะต่อไป โดยปีนี้ตั้งเป้า 5-10 ล้านบาท ไม่เยอะ เพราะปีแรกของการลงทุน โดยใน 3 ปี ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ติด TOP3 ส่วนปีนี้ยังเทียบไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันโบรกฯที่ทำอยู่มี บล.เอเชีย,ธนชาต,ภัทร,เมย์แบงก์กิมเอ็ง,เคทีซีมิโก้,โนมูระ แต่เราก็มั่นใจเพราะได้ SCB เป็นฐานลูกค้า"
ประเทศที่น่าสนใจลงทุนและให้ผลตอบแทนจากการลงทุนดีที่สุดคือตลาดยุโรป ซึ่งปี 56 ให้รีเทิร์นถึง 17-20% ปีนี้ก็น่าจะเป็นตัวเลข 2 หลักได้ รองลงมา อเมริกา เอเชีย ก็ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ญุ่ปุน โดยหุ้นที่น่าสนใจลงทุน เช่น กลุ่มออโตโมบิล คอมมูนิตี้ลิงค์ เทคโนโลยี คาสิโน แบรนด์เนม
ปัจจัยที่จะผลักดันให้วอลุ่มไปที่ 100-200 ล้านบาท/เดือนได้ คือระบบอินเตอร์เน็ตเทรดดิ้งที่ตอบโจทย์ลูกค้าช่วงกลางคืน การอบรมมาร์เก็ตติ้ง ส่วนปัจจัยการเมืองในแง่หลักทรัพย์ต่างประเทศทำให้ลูกค้าสนใจหลักทรัพย์ต่างประเทศมากขึ้น ส่วนเรื่องภาษีในตลาดเอเชียถ้าซื้อขายแล้วเอาเงินกลับมาเลย Capital Gain ไม่คิดภาษี แต่ถ้าเป็นปันผลคิดภาษี ส่วน Global (ไม่ใช่เอเชีย) ถ้าถือข้ามปีหรือขายแล้วถือข้ามปียังไม่เอาเงินกลับมาไม่เสียภาษี ซึ่งการลงทุนในต่างประเทศก็จะเหมาะกับระยะยาว
โดยในไตรมาส 1 นี้ บล.จะเน้นเชิงรุกเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเน็ตเวิร์คโดยไปร่วมกับธนาคารแม่ไปคุยกะลูกค้าที่จะมีข้อมูลเบื้องต้นการลงทุนต่างประเทศเจาะกลุ่มไฮเน็ตเวร์ตอย่างจริงจัง โดยลูกค้าไฮเน็ตเวิร์คมีวงเงินตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป
"ตลาดที่จะสร้างรีเทิร์นดีที่สุด คือ ยุโรปปี 56 รีทิร์น 17-20% ปีนี้ก็น่าจะ Double Digit อยู่ ส่วนอเมริกาช่วงหลังตัวเลขเศรษฐกิจไม่แข็งแรง ประกอบกับราคาปรับขึ้นเยอะแล้ว แต่อเมริกาก็ยังมีโอกาสไปต่อได้ ฮ่องกง เหมาะกับการเทรดระหว่างวันเพราะเวลาใกล้เคียงไทย ซื้อขายมีโอกาสทำกำไรระหว่างวันได้"นายวีรเวท กล่าว
ทั้งนี้ เบื้องต้นเปิดให้บริการครอบคลุม 13 ตลาดชั้นนำทั่วโลก ได้แก่ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย แคนาดา ฮ่องกง เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย