ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของทิสโก้ เวลธ์ (TISCO Wealth) ระบุว่า การที่ดัชนีหุ้นจีนปรับตัวลงมาในช่วงนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลตัวเลข PMI ซึ่งเป็นตัวเลขชี้นำทางเศรษฐกิจตัวหนึ่งที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 50 จุด ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงชั่วคราวและมองว่าตัวเลขดังกล่าวน่าจะปรับตัวดีขึ้นในเดือนถัดไป เนื่องจากที่ผ่านมาอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนซึ่งกิจกรรมทางธุรกิจจะชะลอตัว ถือเป็นเรื่องปกติเพราะชาวจีนส่วนใหญ่จะถือโอกาสหยุดยาวในช่วงปลายเดือนมกราคมคาบเกี่ยวเดือนกุมภาพันธ์
ในส่วนของฝ่ายวิจัยดอยช์แบงก์ซึ่งเป็นพันธมิตรของทิสโก้ ก็มองปีนี้เศรษฐกิจจีนน่าจะเติบโตเกินกว่า 8% สอดรับกับการแถลงข่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจีน และ ผู้ว่าการธนาคารกลางของจีน ที่ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของจีนจะขยายตัวที่ระดับ 7-8% ได้อย่างแน่นอน
ในปัจจุบัน ดัชนีราคาหุ้นของบริษัทจีนที่มาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดฮ่องกงหรือ H-Share ซื้อขายอยู่ในระดับ 9,800 จุด ซึ่งต่ำกว่าราคา Book value มาก นอกจากนี้หากจะประเมินผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในตลาดหุ้นจีน โดยดูจากค่า PE ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 6.49 เท่า พบว่าจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้มากกว่า 70% หากหุ้นจีน สามารถกลับมาซื้อขายในระดับค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลังในอดีต 5 ปี ซึ่งถ้านักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงในการลงทุนในตลาดหุ้นได้ก็จะมองว่าตลาดจีนถือเป็นตลาดหุ้นอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจในการลงทุนเป็นอย่างมาก