สาเหตุหลักจากการฟื้นตัวของภาพรวมตลาดไอที และกำลังซื้อผู้บริโภคที่จะเข้ามามากขึ้น อีกทั้ง นโยบายการบริหารต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญไว้เพียงพอในปีที่ผ่านมา จึงคาดว่าในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ต้องไม่มีปัจจัยรุนแรงต่างๆ มากระทบบริษัทฯ ที่นอกเหนือความคาดหมายด้วย
ในปี 2556 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 18,758.88 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 20,576.43 ล้านบาท ลดลง 1,817.56 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.83 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ปัญหาการเมือง ส่งผลต่อยอดขายบริษัทฯ อีกทั้ง ตลาดสินค้าประเภทโน๊ตบุ๊คมียอดขายลดลง และผู้บริโภคยังชะลอการใช้จ่ายซื้อสินค้ากลุ่มไอที เพื่อรอเทคโนโลยีและเทรนด์ใหม่ๆ ของสินค้า
จากยอดขายที่ลดลงส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 221.84 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 40.28 จากงวดปี 2555 แต่บริษัทฯ สามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายได้ 33.18 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริหาร ปี 2556 เท่ากับ 384.70 ล้านบาท สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน เท่ากับ 132.27 ล้านบาท หรือสูงขึ้นคิดเป็นร้อยละ 52.40 จากการตั้งสำรองหนี้เผื่อจะสูญเพิ่มขึ้น แต่มีต้นทุนทางการเงินลดลง 23.84 ล้านบาท หรือลดลงกว่าร้อยละ 50 เนื่องจาก บริษัทฯ สามารถบริหารควบคุมต้นทุนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
"ผลงานซินเน็คฯ ที่ออกมาลดลง เมื่อเทียบกับปี 55 เป็นไปตามภาพรวมตลาดไอทีที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยในประเทศ เหตุการณ์ทางการเมือง และเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศที่อ่อนตัว ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้าไอทีและเทคโนโลยี ส่งผลให้ยอดขายบริษัทฯ ลดลง แต่ถือว่าเป็นไปตามที่ประมาณการณ์ จากภาวะตลาดไอทีโดยรวมและผู้ประกอบการไอที ต่างได้รับผลกระทบดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เน้นการรักษามาตรฐานในการควบคุมต้นทุน มุ่งเน้นทำกำไร เห็นได้จากตัวเลขในปี 56 บริษัทฯ มีต้นทุนทางการเงินลดลงกว่า 50% จะสนับสนุนให้บริษัทฯ แข็งแกร่ง และรับมือกับทุกสถานการณ์ที่มากระทบได้ รวมทั้งมีผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นด้วยโดยปันผลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท" นายสุพันธุ์ กล่าว