สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 77,050 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 54,969 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 71.3% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 15,461 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 20.1% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,509 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB21DA, LB196A และ LB236A (รุ่นอายุ 7.8 ปี, 5.3 ปี และ 9.3 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 11,275 ล้านบาท หรือคิดเป็น 73% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT155A) มูลค่า 225.0 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BGH153A) มูลค่า 202.3 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของธนาคาร เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK144A) มูลค่า 142.4 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 569.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37.8% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 13,895 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 297 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -723 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.22% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.25% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01%
>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-5 bps. พันธบัตร ธปท. รุ่นอายุ 6 เดือน ที่ประมูลวันนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุน 2.43 เท่าของวงเงินประมูล โดยตลาดยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาคืนนี้ โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค(Consumer confidence ) สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 723 ล้านบาท