นายสมชาย คุลีเมฆิน ประธานกรรมการบริหาร GC คาดรายได้ปีนี้จะเติบโตราว 6-8 % โดยจะเติบโตตามการเติบโตของ GDP ที่คาดว่าจะมีการเติบโตราว 3-4% เนื่องจากบริษัทฯยังมีงานที่รอรับอยู่แล้ว ที่จะเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ผลิตภัณฑ์ BU2 จะเข้ามาเป็นตัวเด่น โดยมีการเติบโตทั้งในอุตสาหกรรมรถยนต์ และ เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยอุตสาหกรรมรถยนต์ปีนี้คาดว่าจะมีการผลิตรถยนต์ 2.5-2.7 ล้านคัน
ในส่วนของปัญหาทางการเมืองนั้น บริษัทฯยอมรับว่าได้รับผลกระทบ แต่ได้รับผลกระทบไม่มากนักเนื่องจากบริษัทฯได้เข้าไปเจรจับกับผู้ผลิตสินค้าปลายน้ำเพื่อปรับแผนอย่างต่อเนื่อง
"เราเชื่อมั่นว่าปีนี้เราจะมีรายได้เติบโตราว 6-8 % ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองก็ตาม เพราะเราได้เข้าไปพูดคุยกับลูกค้าของเราที่ผลิตสินค้าปลายน้ำเพื่อที่จะปรับแผนในการผลิตและพัฒนาสินค้า ในขณะเดียวกันเรายังมีงานที่อยู่ในไปป์ไลน์อีก"นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวต่อว่า บริษัทฯมีแผนที่จะลงทุน โซลาร์ รูฟท็อป มูลค่าราว 10 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (แบบ ร.ง.4) นอกจากนี้ยังมีแนวคิดที่จะขยายธุรกิจอื่นๆเพิ่มเติมอีก ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา
"ปีนี้เราจะลงทุน โซลาร์ รูฟท็อป ขนาดไม่ใหญ่นัก ซึ่งเงินลงทุนไม่มากนักเงินลงทุนก็จะมาจากเงินทุนหมุนเวียน ในขณะเดียวกันเราก็มีแนวคิดที่จะขยายกิจการอีก แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีความชัดเจนอะไร เพราะเราไม่ได้รีบแต่หากมีโอกาสเราก็จะเข้าไปลงทุน ซึ่งถ้าเรามีโอกาสในการลงทุนเราก็คาดคาดว่าเงินลงทุนจะอยู่ที่ราว 50-100 ล้านบาท" นายสมชาย กล่าว
ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะขึ้นมาอยู่ที่ 2-2.5% จากปีที่ผ่านมามีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 2.2% โดยปีนี้อัตรากำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นนั้นจะมาจากการขายผลิตภัณฑ์ BU2 มากขึ้น ซึ่งสินค้าใน BU2 นั้นมีกำไรที่ค่อนข้างดี