ขณะที่ในบางพื้นที่ก็ยังมีความต้องการของนักลงทุน เช่น พื้นที่ในบริเวณเขตบางนา-ตราด ขณะเดียวกันบริษัทฯมีแผนนำสินทรัพย์ขายเข้ากองทุน REIT ขนาดพื้นที่ 150,000 ตารางเมตร มูลค่า 4,500 ล้านบาท ในช่วงปลายปี 57
ทั้งนี้บริษัทฯ เตรียมออกหุ้นกู้อีก 4,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี, 4 ปี และ 5 ปี โดยจะขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เมษายนนี้ ซึ่งจะนำมาใช้ในการขยายพื้นที่ 3 แสนตารางเมตร ใน 7-8 ทำเล โดยจะเน้นพื้นที่บริเวณบางนา-ตราด, ลาดกระบัง และแหลมฉบัง ซึ่งบริษัทฯได้ตั้งงบลงทุนไว้จำนวน 6,000 ล้านบาท จะมาจากหุ้นกู้จำนวน 4,000 ล้านบาทและอื่น ๆ มาจากเงินสดกับกู้สถาบันทางการเงิน โดยการออกหุ้นกู้จะทำให้บริษัทฯสามารถควบคุมต้นทุนได้มากขึ้น รวมถึงสามารถลดต้นทุนดอกเบี้ยของธนาคารได้ ซึ่งจะมีอัตราส่วนดอกเบี้ยเฉลี่ยทั้งพอร์ตจะอยู่ที่ 4.5-4.7% จากเดิมอยู่ที่ 5.2-5.3% และ D/E จะอยู่ที่ 1.5 เท่า
นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนขยายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขยายธุรกิจ คาดว่าจะสามารถสรุปได้ไตรมาส 2/57 โดยจะเป็นการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ อย่างในกลุ่มลูกค้าอีคอมเมิร์ซ กลุ่มธุรกิจห้องเย็น ห้องแช่แข็งไอศกรีม และธุรกิจห้องเย็นเก็บอาหารระดับพรีเมี่ยม เพื่อรองรับ AEC ซึ่งปีนี้บริษัทฯได้เข้าไปรุกตลาดในประเทศพม่า และอินโดนีเซียแล้ว มองว่าอาจจะเป็นในรูปแบบ Joint Venture หรือเข้าไปลงทุนเอง และจะขยายไปยังฝั่งเอเชีย โดยตั้งเป้าภายใน 5 ปีนี้จะครองตลาดดังกล่าวได้ รวมถึงตั้งเป้า 20 ปีบริษัทฯจะเป็น Warehouse ระดับโลก
นพ.สมยศ กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนเดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนต่างประเทศกลุ่มใหม่ อาทิ สิงค์โปร์ในระหว่าง 6-7 มี.ค., ญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 2-4 เม.ย., ยุโรป ระหว่าง 19-23 พ.ค. และในเดือนก.ค.จะเดินทางไปฮ่องกง และญี่ปุ่น
สำหรับโรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟ ขนาดกำลังการผลิต 4.5 เมกกะวัตต์ ขณะนี้บริษัทฯได้รับใบรง.4 เรียบร้อยแล้ว และจะสามารถเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)ได้ในวันที่ 1 เม.ย.นี้เป็นต้นไป